ประกาศอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น Nissan ที่เตรียมจะเปิดตัวโมเดล SUV แบบใหม่ทั้งหมดสำหรับตลาดอเมริกาและยุโรป กับเจ้า 2021 All-New Nissan Qashqai ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจของโมเดลนี้มาให้ได้อ่านกัน
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับรูปแบบของเครื่องยนต์ใหม่ที่จะติดตั้งบน 2021 All-New Nissan Qashqai นั้นจะเป็นเครื่องยนต์แบบเทอร์โบชาร์จ โดยที่มีให้เลือกทั้งแบบดีเซลและเบนซิน รวมไปถึงระบบไฮบริด และยังจะมีเครื่องยนต์แบบ e-Power ที่เป็นรูปแบบเดียวกับ Nissan Kicks ที่กำลังเตรียมทำตลาดในยุโรปหลังจากนี้อีกด้วย โดยที่รูปแบบเครื่องยนต์ชุดแรกนั้นจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลขนาด 1.3 ลิตรเทอร์โบ พ่วงด้วยระบบ Mid-Hybird ขนาด 12V โดยจับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็กเพื่อให้มีระบบช่วยแรงบิดและฟังก์ชั่นการออกตัวที่ดียิ่งขึ้น โดยที่ระบบไฮบริดที่เพิ่มเข้ามานั้นจะทำให้ตัวรถมีน้ำหนักที่มากกว่ารุ่นเดิม 22 กิโลกรัม แต่ทางผู้ผลิตอ้างว่าจะช่วยในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่มากขึ้น และช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ที่มากถึง 4g/km
โดยที่กำลังของเครื่องยนต์ชุดนี้นั้นจะมีความสามารถให้กำลังสูงสุดที่ 138 แรงม้า (BHP) และ 156 แรงม้า (BHP) ตามน้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน โดยตัวรถจะมาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT และระบบขับเคลื่อนแบบ AWD ซึ่งทางผู้ผลิตได้กล่าวไว้ว่าระบบจะใช้งานง่ายและชาญฉลาดยิ่งขึ้น มีโหมดการขับขี่ 5 โหมด และสามารถเปลี่ยนกำลังไปที่ล้อหลังได้เร็วกว่าระบบเดิมถึง 5 เท่า
ข้อเสนอที่ล้ำหน้ากว่านั้นคือระบบไฮบริด ePower ใหม่ซึ่งไม่ใช่ปลั๊กอิน แต่แตกต่างจากลูกผสมแบบขนานเนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ได้เชื่อมต่อโดยตรงกับล้อ แต่จะเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานให้กับมอเตอร์แรงขับที่เพลาล้อระบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น และรวมถึงประเทศไทย ด้วยการบำรุงรักษาที่ไม่ยุ่งยาก Nissan อ้างว่าได้รับการ“ อัพเกรดอย่างมีนัยสำคัญ” สำหรับลูกค้าชาวยุโรปด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใหญ่ขึ้น 47% และเครื่องยนต์สันดาปที่ทรงพลังกว่า
โดยเครื่องยนต์ที่ใช้ในการกำเนิดพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่น e-Power นั้นจะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ใหม่ที่มีอัตราส่วนการบีบอัดแบบแปรผันซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับแบรนด์ในยุโรปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 187bhp (เครื่องยนต์ 156bhp ในการชาร์จแบตเตอรี่ และแรงบิด 243 lb ft ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน
[adsforwp id=”1302″]
ตัวรถนั้นจะมาพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ CMF-C ของ Renault-Nissan-Mitsubishi Alliance ที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมและสร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร แพลตฟอร์มจะมาพร้อมกับฐานล้อที่กว้างขึ้น ทำให้ตัวรถนั้นดูมีความแข็งแรงกว่ารุ่นเดิม โดยทางผู้ออกแบบได้กล่าวว่า “ตัวรถจะมีรูปร่างที่ดีที่สุดในกลุ่ม จะดูแน่นหนา มีกล้ามเนื้อ แต่ก็ดูเพรียวและมีไดนามิก ในเวลาเดียวกัน”
แพลตฟอร์มนี้ใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษในสัดส่วนที่มากกว่ารถรุ่นเก่า (เพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 30%) และโครงสร้างใต้พื้นมีความแข็งมากขึ้นเนื่องจาก Nissan ตั้งเป้าที่จะให้คะแนนความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการทดสอบการชน นอกจากนี้ยังมีการยึดโครงสร้างในข้อต่อของบอดี้ที่สำคัญเพื่อเพิ่มความแข็งแรงต่อไป ความฝืดโดยรวมเพิ่มขึ้น 41% สำหรับรถรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ Nissan ได้ลดน้ำหนักตัวถังถึง 60 กิโลกรัม การมีส่วนช่วยในเรื่องนี้คือการใช้วัสดุคอมโพสิตสำหรับ bootlid และ fuel cap ในขณะที่การใช้อลูมิเนียมสำหรับประตูและฝากระโปรงช่วยประหยัดได้ 21 กิโลกรัม
เทคโนโลยีห้องโดยสารได้รับการยกเครื่องเช่นกันด้วยหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 9.0 นิ้วใหม่ที่ให้บริการ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Nissan อ้างว่า“ ทุกอย่างที่มีอยู่ในตลาด” ในแง่ของบริการที่เชื่อมต่อและแอปพลิเคชั่น ซึ่งรวมเข้ากับจอแสดงผลเครื่องดนตรีขนาด 12.3 นิ้วในรุ่นยอดนิยมรวมถึงจอแสดงผลบนศีรษะ 10.8 นิ้วที่อ้างว่าใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 15W พร้อมพอร์ต USB-A และ USB-C พร้อมด้วยแพ็คเกจระบบเสียงของ Bose
เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ ProPilot ของ Nissan ซึ่งรวมถึงระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถกึ่งอิสระระดับสอง จะติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นกลางขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีการนำสัมผัสระดับพรีเมียมจำนวนมากเข้ามาใน Qashqai ใหม่แม้ว่าจะมีความตั้งใจในตลาดกลางลงมาก็ตาม ซึ่งรวมถึงที่นั่งที่มาพร้อมกับระบบนวดที่ควบคุมได้ผ่านหน้าจอสัมผัส ระบบแสงบรรยากาศภายในห้องโดยสาร รวมไปถึงการเลือกใช้งานวัสดุมาตรฐานสูง
นี้เป็นเพียงบางส่วนของข้อมูลที่ทางผู้ผลิตได้เปิดเผยมา ณ ตอนนี้ คาดว่าข้อมูลแบบเต็มๆ ของเจ้า 2021 All-New Nissan Qashqai น่าจะถูกเปิดเผยทั้งหมดในวันที่เปิดตัว 18 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำเสนอในโอกาสต่อไปครับ
Credit : www.autocar.co.uk
[adsforwp id=”1302″]