หลังจากประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกับโมเดลพิเศษอย่างเจ้า 2020 Honda Civic “Sport Line” รุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจในการตกแต่งรูปโฉมภายนอกจากโมเดลตัวท๊อปอย่าง Civic Type R ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Honda EU ก็ได้ประกาศการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในไลน์ Sport Line ใหม่กับโมเดล Hacthback ยอดนิยมของทางค่ายกับเจ้า Honda CR-V
[adsforwp id=”1302″]
2020 Honda Civic “Sport Line”
สำหรับสไตล์ของเจ้า 2021 Honda CR-V “Sport Line” นั้นจะมาในแนวทางเดียวกับ Civic “Sport Line” ด้วยชุดบอดี้สีดำสนิท ที่ไล่เรียงไปตั้งแต่ขอบกันชนหน้าไปจนถึงส่วนท้ายของตัวรถ มาพร้อมกับล้ออะลูมิเนียมขนาด 18 นิ้วที่ออกแบบใหม่ ที่แตกต่างจากรุ่นเกรดทั่วๆไป แม้แต่หมุดยึดล้อยังเลือกใช้สีดำอีกต่างหาก แต่ก็ยังตัดเลี่ยมด้วยการใช้สีโครเมียมเข้มรอบไฟตัดหมอกและที่กระจังหน้า กันชนประตูและประตูท้ายตกแต่งด้วยสีเงิน กระจกนิรภัยยังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยจะมีมีชุดสีให้เลือกสองชุดประกอบไปด้วย Crystal Black และ Platinum White ที่จะต่างกันเพียงสี แต่ตำแหน่งและการจัดวางจะเหมือนกันทุกระเบียดนิ้ว
งานตกแต่งภายในนั้นจะเน้นการใช้สี Piano Black ที่ดูเรียบง่ายแต่หรูหราในตัวเอง ไล่เรียงไปตั้งแต่แผงคอนโซล แผงประตู กล่องใส่อุปกรณ์เสริม แผงหน้าจอ infotainment รวมไปถึงระบบปรับอากาศแบบรอบทิศทางก็เลือกใช้โทนสีดำ เช่นเดียวกับพวงมาลัย และผังบุรอบเสาและหลังคาอีกด้วย
[adsforwp id=”1302″]
ไม่เพียงแต่การตกแต่งที่เปลี่ยนแปลงไป ตัวรถยังมีการปรับปรุงระบบความปลอดภัย Honda Sensing รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับระบบเบรคลดการชน (CMBS) ระบบเตือนการชนล่วงหน้า (FCW) และฟังก์ชั่นตรวจจับคนเดินถนนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับอัตโนมัติ (Adaptive cruise control) พร้อมฟังก์ชั่นติดตามความเร็วต่ำและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ก็ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ในรุ่น Sport Line นั้นจะมีการติดตั้งระบบไฮบริดรุ่นใหม่ เครื่องยนต์เป็นแบบ Atkinson cycle 2.0 ลิตรเบนซิน 4 สูบแถวเรียง “i-VTEC” ที่มีประสิทธิภาพในการทนทานความร้อนสูงสุด 40% มากกว่ารุ่นเดิม โดยมีความสามารถในการให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบต่อนาที อีกทั้งยังรวมเข้ากับมอเตอร์ช่วยขับอีกสองตัว ทำให้ได้แรงม้าสูงสุดรวมที่ 184 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 32.1 kgm-T ระบบไฮบริดนี้ช่วยลดอัตราทดเฟืองเดียวและส่งแรงบิดของระบบไฮบริดได้อย่างราบรื่น
Intelligent Power Unit (IPU) ซึ่งประกอบด้วยชุดแบตเตอรี่ไฮบริดและระบบควบคุมมีการออกแบบที่กะทัดรัดและวางอยู่ใต้พื้นด้านหลัง ระบบไฮบริดจะสลับระหว่างโหมดการขับขี่สามโหมดโดยอัตโนมัติ ได้แก่ ไดรฟ์ EV ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ ไดรฟ์ไฮบริดและไดรฟ์เครื่องยนต์ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ โดยส่วนใหญ่ในสภาพการขับขี่ในเมืองส่วนใหญ่เป็นไดรฟ์ไฮบริดและไดรฟ์ EV ซึ่งเน้นการประหยัดน้ำมัน ส่วนไดรฟ์เครื่องยนต์ทำงานตามความจำเป็นเพื่อการเร่งความเร็วและการขับขี่ด้วยความเร็วสูงอย่างมีประสิทธิภาพ
แบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออนและในโหมด EV สามารถวิ่งได้ประมาณ 2 กิโลเมตร โดยไม่มีการปล่อยมลพิษ โดยที่ตัวรถนั้นจะมีความสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่ 8.6 วินาที และระบบขับเคลื่อน AWD ในเวลา 8.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ตามมาตรฐาน WLTP คือ 15.1 กม. / ลิตร และอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 151g / km
ยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการสำหรับ 2021 Honda CR-V “Sport Line” สำหรับตลาดรถยนต์ในทวีปยุโรป แต่คาดว่าราคาน่าจะสูงกว่ารุ่นท๊อปของกลุ่ม CR-V มาตรฐานไปราวๆ 3,000 ยูโร หรือประมาณ 108,707 บาท โดยประมาณ
Credit : spyder7.com response.jp
[adsforwp id=”1302″]