หลังจากเปิดตัวในบ้านเราไปในงาน Bangkok International Motor Show 2020 บริษัท Toyota ก็ได้นำโมเดลรุ่นใหม่ล่าสุดของ Toyota Venza หรือชื่อที่ขายในบ้านเราก็คือ Toyota Harrier ไปทำการเปิดตัวสำหรับการขายในตลาดอเมริกากันบ้าง โดยจะมีความแตกต่างกับเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในบ้านเราพอสมควร
[adsforwp id=”1302″]
โดยเจ้า 2021 Toyota Venza รุ่นที่เปิดตัวในตลาดอเมริกานั้นจะมีรูปแบบเครื่องยนต์ให้เลือกเพียงรูปแบบเดียว โดยใช้งานเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร พร้อมด้วยระบบไฮบริด มอเตอร์ไฟฟ้าสามตัวด้านหลัง และชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยมีประสิทธิภาพการสร้างพละกำลังสูงสุดรวม 219 แรงม้า (HP) โดยที่ระบบไฮบริดช่วยปรับระดับความช่วยเหลือของมอเตอร์ไฟฟ้าและการหมุนรอบของเครื่องยนต์โดยไม่ต้องหมุนเครื่องยนต์ที่ความเร็วรอบสูง ซึ่งหมายความว่า ความเร็วของเครื่องยนต์นั้นถูกปรับให้เข้ากับความเร็วของรถเพื่อที่จะสร้างสมดุลและประสิทธิภาพในการขับขี่ที่สูงขึ้น
[adsforwp id=”1302″]
2021 Toyota Venza จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบ AWD โดยจะมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังเพื่อขับเคลื่อนล้อหลังเมื่อจำเป็น ระบบสามารถเปลี่ยนการกระจายแรงบิดระหว่างเพลาจาก 100: 0 ในการขับขี่ความเร็วคงที่ถึง 20:80 บนพื้นผิวถนนที่ลื่น จนทำให้การหมุนของล้อทั้งหน้าและหลังไม่สมดุลกัน ซึ่งหลักการทำงานจะคล้ายกับระบบ Traction Control นั่นเอง
ภายใน Toyota Venza ใหม่จะมีระบบ infotainment systems บนหน้าจอขนาด 8.0 นิ้ว มาตรฐาน พร้อมด้วยตัวเลือกหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว โดยทั้งสองตัวเลือกรองรับการทำงานของ Android Auto, Apple CarPlay และ Amazon Alexa โดยที่ไฮไลท์อื่นๆ ของเจ้า Venza ใหม่นั้นจะมีตัวเลือกหลังคากระจกอิเล็กทรอนิกส์ Star Gaze ตัวเลือก Head-Up Display ขนาด 10 นิ้วและกระจกมองหลังแบบดิจิตอลพร้อมระบบ HomeLink
นอกจากนี้ 2021 Toyota Venza ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Toyota Safety Sense ที่ครอบคลุมซึ่งรวมถึงระบบ Pre-Collision พร้อมระบบตรวจจับคนเดินเท้าและจักรยาน การควบคุมความเร็วด้วยเรดาร์เรดาร์แบบไดนามิกเต็มรูปแบบ ระบบช่วยในการเปลี่ยนเลนท์ ระบบตีไฟแจ้งเตือนอัตโนมัติ และระบบแจ้งเตือนป้ายสัญญาณจราจร
สำหรับราคาของ 2021 Toyota Venza จะแบ่งออกเป็นสองรุ่นหลักๆ จากการตกแต่งพิเศษ โดยรุ่นมาตรฐาน LE จะเริ่มต้นที่ราคา $ 33,645 (1,064,400 บาท) และรุ่น XLE ในราคาเริ่มต้น $ 37,175 (1,176,032 บาท) และมีรุ่นตกแต่งพิเศษที่จัดเต็มอุปกรณ์และระบบช่วยเหลือต่างๆ กับรุ่น Range-topping Limited ในราคาเริ่มต้น $ 40,975 (1,296,122 บาท)
Credit : www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]