กลายเป็นข่าวลืออย่างหนักในประเทศญี่ปุ่น เมื่อสื่อยานยนต์หลายสำนักต่างรายงานตรงกันว่า Toyota กำลังวางแผนใหม่ให้กับ Sienta รถยนต์เอนกประสงค์แบบครอบครัว ในการทำตลาดแข่งกับคู่ปรับคนสำคัญอย่าง Honda Freed หลังจากตกเป็นข่าวในการพัฒนาสู่รุ่นที่ 3 เมื่อเร็วๆ นี้
[adsforwp id=”1302″]
Toyota Sienta รุ่นปัจจุบัน
สำหรับ Toyota Sienta รุ่นปัจจุบันที่มีจำหน่ายทั้งในญี่ปุ่นและประเทศไทยนั้น เป็นโมเดลที่มีการจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2015 โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ เลยนับตั้งแต่เปิดตัวออกมา เมื่อเราคำนวนวงจรของตัวโมเดลก็ถึงคราวที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง และเมื่อตรวจสอบยอดการจำหน่ายในปัจจุบันนั้น ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรที่จะได้ไปต่อ จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก ที่ตัวรถจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ในรอบ 7 ปี
ส่วนหนึ่งที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง คือแพลตฟอร์มสมัยใหม่ นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา Toyota พยายามอย่างหนักที่จะผลักดันแพลตฟอร์ม TNGA ที่จะใช้เป็นแพลตฟอร์ในการผลิตรถยนต์ในเจนเนเรชั่นถัดไปของทางบริษัท และ All-New Toyota Sienta เองก็น่าจะเดินตามรอยโมเดลอื่นๆ ด้วยการใช้โครงสร้าง TNGA แต่จะเป็นโครงสร้างแบบย่อยภายใต้รหัส TNGA-B ที่ใช้บน Toyota Yaris และ Aqua
งานออกแบบนั้นจะมีความแตกต่างจากรถ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้อย่าง Noah และ Voxy โดยจะเน้นงานออกแบบที่เน้นความโค้งมน ออกแนวที่น่ารักลงมากกว่า Noan และ Voxy ที่เน้นความพรีเมี่ยม พร้อมกับการเดินลวดลายรอยพับที่ด้านข้างตัวรถ ที่สะท้อนถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่แอกทีฟตลอดเวลา ตัวรถจะมาพร้อมกับไฟหน้าใหม่ที่โฉบเฉี่ยวให้อารมณ์ที่สปอร์ตกว่าเดิม กระจังหน้าแบบครึ่งวงรีขนาดเล็ก และช่องดูดอากาศที่วางเป็นแนวยาวที่กันชนหน้า และไฟตัดหมอกขนาดเล็ก
[adsforwp id=”1302″]
ในขณะที่เครื่องยนต์หลักนั้นจะเป็นเบนซิน 3 ลูกสูบขนาด 1.5 ลิตรไฮบริด ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับที่ใช้งานบน Toyota Yaris โดยจะมีน้ำหนักที่เบากว่าและแข็งแรงกว่ารุ่นปัจจุบัน โดยเฉลี่ยน้ำหนักตัวรถจะน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 100 กิโลกรัม ซึ่งจะส่งผลให้สมรรถนะโดยรวมและอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีกว่าเดิม
สำหรับอุปกรณ์ความปลอดภัยและความสะดวกสบาย อุปกรณ์วิวัฒนาการล่าสุดถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐานและตัวเลือกเช่นเดียวกับ Aqua ปัจจุบัน ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อ และการสั่งงานด้วยเสียง ระบบ Collision mitigation brakes จะถูกพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อตรวจจับผู้คนและจักรยานที่สัญจรอยู่ด้านข้าง ระบบ Blind Spot Monitor จะมีความสามารถในการตรวจจับจุดอับสายตาได้ดีกว่าเดิม
สำหรับราคาค่าตัวนั้น สื่อญี่ปุ่นอย่าง bestcarweb ได้คาดการณ์ไว้ว่า รุ่นมาตรฐานจะมีราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบันประมาณ 200,000 เยน หรือราวๆ 56,486 บาท โดยรุ่นปัจจุบันมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,818,500 เยน จะขยับไปอยู่ที่ประมาณ 2,580,000 เยน เป็นอย่างต่ำ ส่วนรุ่นไฮบริด จะมีการขยับราคาขึ้นไปราวๆ 400,000 เยน หรือประมาณ 113,820 บาท
ส่วนการเปิดตัวนั้น bestcarweb ได้รายงานว่าจะมีการเปิดตัวในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นตามเวลาที่ระบุไว้ ก็จะเป็นการเปิดตัวแบบตัดหน้าคู่แข่งอย่าง Honda Freed ที่ยังไม่มีการกำหนดการอย่างเป็นทางการ โดยสื่อญี่ปุ่นส่วนใหญ่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคม แต่ในการจำหน่ายจริงนั้นคาดว่าจะเปิดจำหน่ายในรูปแบบทางการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 เป็นอย่างช้า
Credit : bestcarweb.jp
[adsforwp id=”1302″]