Volkswagen เป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำจากประเทศเยอรมันที่มีการกระจายผลิตภัณฑ์ออกไปจำหน่ายในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยมีกลุ่มตลาดขนาดใหญ่ที่ยุโรปและอเมริกา ซึ่งในบ้านเรานั้นด้วยภาษีการนำเข้าที่สูงลิบลิ่ว ทำให้แบรนด์ Volkswagen ในประเทศไทยนั้นถูกยกให้เป็นประหนึ่งแบรนด์ระดับ Premium และยังไม่มีการจัดจำหน่ายโดยตัวแทนอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
[adsforwp id=”1302″]
2022 Volkswagen Taos จัดว่าเป็นโมเดลใหม่ล่าสุดของค่ายผู้ผลิตจากเมืองเบียร์ โดยเจ้า Taos นั้นจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ SUV ขนาดเล็ก ที่มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งใน Segment ที่เท่าๆ กัน โดยใช้ขุมกำลังจากเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร สี่ลูกสูบเทอร์โบชาร์จ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแปดสปีดในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและอัตโนมัติ DCT เจ็ดสปีดในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยที่เครื่องยนต์นั้นมีความสามารถในการให้กำลังสูงสุดที่ 115 แรงม้า (HP) มากกว่าเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรเทอร์โบ ที่ใช้ในรุ่นยอดนิยมอย่าง Glof อยู่ 11 แรงม้า และตัวเครื่องยนต์ใหม่ของ Taos นั้นสามารถสร้างแรงบิดสูงสุด 184 ib-ft ได้ที่ 1,750 รอบต่อนาที ซึ่งนับว่าเป็นรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำมากๆ และเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองรวมไปถึงการเดินทางในระยะสั้นถึงกลางเอามากๆ
Volkswagen กล่าวว่าเครื่องยนต์ใหม่นี้เป็นเทอร์โบที่ผลิตจำนวนมากตัวแรกที่ใช้รูปทรงกังหันแปรผัน นั่นเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการบอกว่าเทอร์โบสามารถปรับเปลี่ยนวิธีที่กังหันตอบสนองต่อการไหลของก๊าซไอเสียที่หมุนวงล้อคอมเพรสเซอร์เพื่อให้เหมาะกับความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำลงหรือสูงขึ้น หมายความว่าเทอร์โบให้กำลังมากขึ้นในช่วงรอบการหมุนที่มากขึ้นและกำจัดการไต่ความเร็วจากต่ำไปสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เครื่องยนต์ใหม่ยังทำงานที่แรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 500 psi และอัตราส่วนกำลังอัด 11.5: 1 ซึ่งค่อนข้างสูงสำหรับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จซึ่งหมายถึงประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงกว่าในเครื่องยนต์รูปแบบเดียวกันจากคู่แข่ง
มาดูกันที่แพลตฟอร์มกันบ้าง 2022 Volkswagen Taos ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Volkswagen ID4 รถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบของทางค่าย บนแพลตฟอร์ม Modular Transverse Architecture (MQB) ทำให้ตัวรถ Taos ที่เป็น SUV ขนาดเล็ก มีขนาดตัวรถที่ใกล้เคียงกับ Volkswagen Atlas ที่เป็น SUV ขนาดกลาง อีกทั้งยังอ้างอิงการออกแบบบังโคลนหน้าแบบ squared-off และส่วนของ squat stance ที่คล้ายกับ Atlas แถบไฟ LED ที่พาดผ่านความกว้างของกระจังหน้าก็เหมือนกับที่ปรากฏใน ID4 และ 2022 Golf GTI ใหม่
[adsforwp id=”1302″]
ตัวรถ 2022 Volkswagen Taos มาพร้อมกับฐานล้อที่ยาวถึง 105.9 นิ้ว จัดว่าเป็นโมเดลที่มีฐานล้อที่ยาวที่สุดในกลุ่ม และความยาวพิเศษช่วยในเรื่องพื้นที่วางขาด้านหลัง และความยาวตัวรถโดยรวมที่ยาวถึง 175.8 นิ้ว ทำให้ Taos เป็น SUV ขนาดเล็กที่มีความยาวมากที่สุดคันหนึ่งในกลุ่ม ซึ่งเจ้า Taos นั้นมีความยาวรวมที่สั้นกว่า Subaru Crosstrek (XV) ไปเพียงแค่นิ้วเศษๆ เท่านั้น และมีความยาวมากกว่า Mazda CX-30 ที่มีความยาว 173 นิ้ว ด้วยความยาวที่มากกว่านั้น ไม่เพียงจะเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสาร ตัวรถยังมาพร้อมพื้นที่บรรทุกขนาด 28.1 ลูกบาศก์ฟุตพร้อมที่นั่งแถวสองแบบพับเก็บได้ สามารถปรับพื้นที่บรรทุกให้เป็นขนาด 66.3 ลูกบาศก์ฟุตได้ ซึ่งมันสามารถสร้างพื้นที่ใช้สอยและบรรทุกได้มากกว่า CX-30 และ Crosstrek ที่เป็นคู่แข่งกันโดยตรง
Volkswagen จะจัดเกรดให้กับ Taos ออกเป็นสามเกรด ประกอบไปด้วย S, SE และ SEL โดยทั้งสามรุ่นจะมาพร้อมกับระบบ Push Strat ไฟหน้า LED อัตโนมัติ และจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ และการตกแต่งบางอย่าง และจะมีตัวเลือกชุดความปลอดภัย IQ Drive เป็นแพ็กเกจเสริม โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้า การตรวจสอบจุดบอด ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ด้านความการตกแต่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งระบายความร้อนแบบปรับอุณหภูมิได้ พวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้และระบบไฟ LED ภายในห้องโดยสาร แบบ 10 สี ที่สามารถเป็นตัวช่วยในการปรับอารมณ์การขับขี่ได้
ในรุ่น SE จะมาพร้อมกับวงล้อขนาด 18 นิ้ว จากรุ่น S ที่จะได้รับวงล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว และในรุ่น SE จะได้รับเบาะนั่งหนังเทียม V-Tex ของ Volkwagen ส่วนในรุ่น SEL จะมาพร้อมกับตัวเลือกวงล้อ 19 นิ้ว พร้อมทั้งชุดความปลอดภัย IQ Drive เป็นอุปกรณ์มาตรฐานบนตัวรถ และซันรูฟแบบพาโนรามาเป็นตัวเลือกสำหรับ Taos ทุกรุ่น
สำหรับราคาจำหน่ายของ 2022 Volkswagen Taos ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการจากผู้ผลิต โดยบรรดาสื่อสายยานยนต์ฝั่งอเมริกา ต่างคาดเดาว่าราคาจำหน่ายของมันนั้น ไม่น่าจะต่างไปจาก Crosstrek และ CX-30 โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 22,000 ถึง 23,000 เหรียญ หรือประมาณ 686,191 – 717,382 บาท ส่วนการทำตลาดในประเทศไทยนั้นบอกได้เลยว่า ต้องพึ่งพาผู้นำเข้าอิสระเพียงสถานเดียว และอย่างที่ทราบกันดีเมื่อเข้าสู่ประเทศไทยแล้ว ราคามันคงพุ่งทะลุเพดาน 2 ล้านบาทแบบสบายๆ แน่นอน
Credit : www.motortrend.com
[adsforwp id=”1302″]