ถือว่าเป็นข่าวดีของบรรดาสาวก Supra ในอเมริกา หลังจากที่ Toyota USA ได้ตัดสินใจที่จะนำเอารถสปอร์ตกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้ง และการกลับมาครั้งนี้นับว่าเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆ เพราะมันจะหลับมาในรูปแบบของรถสปอร์ตตัวจริง ที่มาพร้อมกับชุดเกียร์ A91-MT และมีการปรับปรุงระบบต่างๆให้เข้ากันกับระบบเกียร์ใหม่นี้ด้วย
[adsforwp id=”1302″]
นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี สำหรับตลาดอเมริกาที่จะได้วางจำหน่าย Toyota Supra ในรูปแบบของเกียร์ธรรมดา โดยเจ้า 2023 GR Supra ซึ่งมีระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเครื่องยนต์หกสูบ 3.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ ที่สามารถรีดกำลังได้ 382 แรงม้า (HP) พร้อมกับแรงบิด 497 นิวตันเมตร
ไม่ใช่เป็นเพียงการยกชุดเกียร์อัตโนมัติออกไปแล้วใส่ชุดเกียร์ A91-MT เข้ามาเท่านั้น ทางผู้ผลิตยังมีการปรับปรุงกล่องเกียร์ใหม่ โดยได้มีการใส่ชิปและซอฟแวร์ที่ควบคุมการทำงาน ของระบบเกียร์ให้เข้ากันกับคัลตซ์ ซึ่งปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมในขณะที่มีการเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งสามารถปิดการทำงานของระบบได้ในโหมด Sport โดยทาง Toyota “ได้ปรับการควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมเพื่อให้ระดับการหมุนของล้อบนยางด้านซ้ายและด้านขวามีความแตกต่างกันมากขึ้น
[adsforwp id=”1302″]
มีการถอดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นบางอย่างออกไปเพื่อลดน้ำหนักตัว รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ใหม่ไม่ว่าจะเป็น เพลาขับ การปรับขนาดของแผ่นคลัตซ์ให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่กว่าพร้อมสปริงไดอะแฟรมเสริมแรง เช่นเดียวกับการอัพเกรดระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบ traction control, stability control, anti-roll systems ได้รับการปรับเทียบใหม่สำหรับเกียร์ธรรมดา ในโหมดการขับขี่ Track นั้นได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้ดริฟท์ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการเสริมฟังก์ชั่น Hairpin+ ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้การขับขี่บนถนนที่คดเคี้ยวหรือการเข้าโค้งในสนามแข่งขัน
ภายในห้องโดยสารจะพบกับเบาะนั่งที่ผลิตจากวัสดุ Cognac leather และเกียร์ที่หุ้มด้วย Alcantara พร้อมป้าย GR ไฮไลท์อื่นๆ ได้แก่ เหล็กค้ำยันสตรัทสีแดงและระบบเสียงระดับพรีเมียมของ JBL 12 ลำโพง ภายนอกจากมาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว และตัวเลือก Matte White และ CU Later Grey
สำหรับความพิเศษนี้ Toyota GR Supra รุ่นเกียร์ A91-<T จะมีการจำหน่ายในจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น โดยตัวรถจะเริ่มเปิดให้ทำการจองล่วงหน้าในช่วงปลายปี 2022 นี้ ส่วนราคาจะมีการประกาศในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐอเมริกา หรือประมาณเดือนมิถุนายน-สิงหาคมที่จะถึงนี้
Credit : www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]