Mercedes-Benz Vans ได้สร้างกระแสให้กับวงการรถ MPV ด้วยการเผยแพร่รูปภาพใหม่ของ V-Class, V-Class Marco Polo, Vito, e-Vito และ EQV ที่ได้รับบการอัพเดททั้งภายในและภายนอกเพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดที่กำลังมีการต่อสู้ที่สูงมากในปัจจุบัน
[adsforwp id=”1302″]
โดยรูปลักษณ์ภายนอกของ Mercedes V-Class / V-Class Marco Polo, Vito / eVito และ EQV จะมาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ โดยจะมาพร้อมกับมีโครงร่าง LED เรืองแสง ในขณะที่รุ่น V-Class Exclusive สุดหรูได้รับดาวแนวตั้งแบบคลาสสิกที่ติดตั้งบนฝากระโปรงหน้าเป็นครั้งแรก ไฟหน้าแบบ Multibeam LED มีทั้งแบบมาตรฐานและแบบเสริม ในขณะที่ไฟท้ายแบบ LED ได้รับการปรับปรุงใหม่ ส่วน V-Class หรือ EQV จะมีตัวเลือกการตกแต่งเสริมด้วยโครเมียมพร้อมตัวอักษร Mercedes-Benz ภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงด้วยสีใหม่ 5 สี และล้ออัลลอยแบบแอโร่ออปติไมซ์หลายขนาดตั้งแต่ 17, 18 และ 19 นิ้วเป็นตัวเลือกเสริม
[adsforwp id=”1302″]
ทุกรุ่นจะได้รับการอัพเกรดระบบ MBUX ล่าสุด โดยรุ่น Vito / eVito จะมีการอัพเกรดหน้าจอแสดงผลส่วนคนขับใหม่เป็นขนาด 5.5 นิ้ว หน้าจอส่วนกลางสาระบันเทิงจะเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รุ่น V-Class / V-Class Marco Polo และ EQV จะอัพเดทหน้าจอใหม่ขนาด 12.3 นิ้วแบบคู่ ทุกรุ่นจะได้คอนโซลกลางที่ได้รับการปรับปรุงรองรับแท่นชาร์จแบบไร้สายที่เป็นอุปกรณ์เสริม และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ เช่น พวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้ การสตาร์ทแบบไม่ใช้กุญแจ ไฟส่องสว่าง Ambient Light ที่ปรับได้ 64 สี และไฟด้านหลังโซนที่นั่งตั้งแต่แถวสอง แบบหรี่แสงได้สำหรับการขับขี่ตอนกลางคืนเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาของผู้ขับขี่
ในอนาคต Mercedes จะติดตั้ง V-Class และ EQV ด้วยประตูเลื่อนด้านซ้ายเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่เบรกมือไฟฟ้ายังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นเชิงพาณิชย์ที่ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ ระบบช่วยเบรกแบบแอ็คทีฟยังทำงานในทางแยก พร้อมกับการอัพเดทระบบช่วยเหลืออย่าง ระบบช่วยจอดที่ปรับปรุงใหม่พร้อมกล้อง 360 องศา และระบบช่วยบังคับทิศทางรถพ่วงสำหรับรถที่ติดตั้งอุปกรณ์ผูกพ่วงรถพ่วงและระบบเกียร์อัตโนมัติ
แบรนด์หรูสัญชาติเยอรมันอธิบายถึงรถตู้รุ่นปรับปรุงใหม่ว่าเป็นตัวเลือกตรงกลางของเส้นทางสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ Mercedes-Benz Vans คาดการณ์ว่า EVs จะมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมดภายในสิ้นทศวรรษนี้
ส่วนการเปิดตัวและวางจำหน่ายนั้น คาดว่าจะเริ่มต้นในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เพื่อต่อสู้กับคู่ปรับคนสำคัญอย่าง Toyota Alphard/Vellfire ที่พึ่งจะเปิดตัวรุ่นใหม่ไปเมื่อเร็วๆ นี้ และยังมีผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่เตรียมส่งโมเดลใหม่เข้าสู่ตลาดก่อนสิ้นปี 2023 นี้อีกไม่ต่ำกว่า 10 รุ่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]