หลังจากประกาศโปรเจกต์ใหม่ในงาน CES2022 ที่ผ่านมา ในที่สุด Chevrolet ก็เริ่มที่จะเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการของ 2024 Blazer EV ออกมาบ้างแล้ว โดยข้อมูลใหม่ที่กำลังจะนำมาบอกเล่านี้ จะเป็นข้อมูลของรุ่นท๊อปอย่าง Blazer EV SS ที่คาดว่าจะมีการดัดแปลงและใส่ความพิเศษลงไปเพื่อใช้เป็นโมเดลสนับสนุนด้านการทำงานของกรมตำรวจในอเมริกาอีกด้วย
[adsforwp id=”1302″]
จากการเปิดเผยข้อมูล 2024 Chevrolet Blazer EV SS จะมีกำลังสูงสุด 557 แรงม้า (HP) และแรงบิด 879 นิวตันเมตร โดยที่ตัวรถจะมีระบบใหม่อย่าง Wide Open Watts (WOW) ที่ช่วยในการปลดปล่อยพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ช่วยให้มีความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-86 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ได้ในเวลาที่ต่ำกว่า 4 วินาที อีกทั้งยังเปิดเผยระบบชาร์จไฟที่รองรับกำลังสูงสุด 11.5 kW สำหรับระบบชาร์จไฟกระแสสลับ (AC) และรองรับกำลังไฟสูงสุด 190 kW สำหรับการชาร์จด้วยกระแสไฟตรงหรือ DC Fast Charge
ยังมีการเผยข้อมูลการตัดเกรดตัวรถแบบคร่าวๆ 2024 Blazer EV จะวางจำหน่ายในระดับ 1LT, 2LT, RS และ SS เกรด LT มีรูปลักษณ์ภายนอกแบบสีเดียว และมาพร้อมกับล้อขนาด 19 นิ้วมาตรฐาน RS มีกระจังหน้าและขอบสีดำ พร้อมกับล้อขนาด 21 นิ้ว ส่วนรุ่นท๊อปอย่าง SS จะมาพ้อมกับตัวถังสีทูโทน โดยมีหลังคาสีดำและล้อขนาด 22 นิ้วเป็นมาตรฐาน ในเกรด RS และ SS ยังมาพร้อมกับไฟ LED ที่มีลวดลายพิเศษและสัญลักษณ์ Chevy เรืองแสงเมื่อคนขับเข้าใกล้หรือเดินจากไป รวมไปถึงการชาร์จไฟที่ระบบไฟจะเปิดขึ้นตามลำดับเพื่อแสดงสถานะการชาร์จของรถ
[adsforwp id=”1302″]
ภายใน Blazer EV มาพร้อมกับหน้าจอ Infotainment ขนาด 17.7 นิ้ว ตรงกลางแดชบอร์ด และมีหน้าจอแสดงผลส่วนคนขับขนาด 11 นิ้ว ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง Super Cruise ของ GM เป็นตัวเลือกเสริม การเริ่มทำงานตัวรถจะไม่มีปุ่มสตาร์ทในห้องโดยสาร แต่รถจะเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อกับกุญแจ Smart Key และคนขับเพียงแค่กดแป้นเบรกตัวรถก็จะพร้อมใช้งานในทันที ในเกรด เกรด RS และ SS มาพร้อมคุณสมบัติเพิ่มเติมในห้องโดยสาร RS มีการเย็บแบบตัดกันสีน้ำเงินและสีแดง และ SS มีให้เลือกในสี Adrenaline Red และ Argon Orange โมเดลเหล่านี้ยังมีพวงมาลัยแบบก้นแบนและช่องระบายอากาศ HVAC ที่ดูเหมือนกังหัน เบาะนั่งคู่หน้ามีระบบทำความร้อนและระบายอากาศ
Blazer EV มาพร้อมกับชุดเทคโนโลยี Chevy Safety Assist ซึ่งเป็นมาตรฐาน โดยจะมีระบบพื้นฐานอย่าง Automatic Emergency Braking, Forward Collision alert, Front Pedestrian Braking, Following Distance Indicator, :park assist, Lane-Keep Assist With Lane Departure Warning, และระบบ Smart Headlights ซึ่งรวมไปถึงระบบเสริมในเกรดกลางถึงสูง ที่จะเพิ่มระบบ Reverse Automatic Braking และระบบ Park Assist ในการช่วยเหลือในการถอยจอดอีกด้วย
สำหรับการจำหน่าย 2024 Chevrolet Blazer EV จะเริ่มจำหน่ายเกรด 1LT, 2LT และ RS ในช่วงฤดูร้อนของปี 2023 โดยจะจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 47,595 ดอลล่าร์หรือประมาณ 1.745 ล้านบาท ส่วนเกรด SS ที่เป็นตัวท๊อปนั้นจะวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 พร้อมกับการเปิดตัวรุ่นพิเศษ PPV (Police Pursuit Vehicle) ที่จะเป็นเวอร์ชั่นสำหรับใช้งานในกรมตำรวจของอเมริกา จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ Ultium ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยจะมาพร้อมกับระยะทางในการวิ่งขึ้นต่ำที่ 320 ไมล์ (515 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว
Credit : www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]