ตรงตามกำหนดการ สำหรับการเปิดตัวรถยนต์ซีดานไลน์อัพใหม่จากแบรนด์ MG กับเจ้า MG7 ที่มาพร้อมกับรูปแบบของโมเดลสายสปอร์ตใหม่ MG black label ที่นับว่าเป็นโมเดลแรกในซีรี่ส์นี้จากทางผู้ผลิต
[adsforwp id=”1302″]
2023 MG7 จัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบซีดาน 4 ประตูสปอร์ตรุ่นใหม่ ที่ใช้ภาษาในการออกแบบใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ MG โดยมีกระจังหน้ารับลมขนาดใหญ่ ลิ้นหน้ามีโครงสร้างรูปพลั่วและสันหลังคาที่ทรงคลื่น แสดงลักษณะที่แข็งแกร่ง ก้าวร้าวและดุดัน นอกจากนี้ รถยนต์ใหม่ยังติดตั้งไฟหน้ารูปทรงแหลมที่รวมไฟ DRL เข้าอยู่ในเซตในรูปทรงตัว L ที่ช่วงเพิ่มความดุดันให้กับส่วนหน้าของตัวรถ
ที่ด้านข้าง จะใช้การออกแบบที่ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมกับแนวหลังคาทรงคลื่นที่ดูจะช่วยในการแหวกอากาศได้ดีในยามที่วิ่งด้วยความเร็วสูง นอกจากนี้ ผิวตัวถังของรถใหม่ยังมีเส้นสายที่แข็งแกร่งและทรงพลังเสริมด้วยบังโคลนหลังที่กว้าง สร้างความรู้สึกที่แข็งแกร่ง
[adsforwp id=”1302″]
ที่ส่วนท้ายของรถ MG 7 ใหม่จะติดตั้งสปอยเลอร์ที่ปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 3 ระดับ ที่สามารถปรับระดับได้ด้วยตัวผู้ขับเองผ่านส่วนควบคุมบนคอนโซลหรือจะตั้งค่าให้ปรับระดับความสูงโดยอัตโนมัติ เมื่อถึงความเร็วที่กำหนดไว้ ส่วนไฟท้ายยังคงเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ MG ด้วยชุดเลย์เอาต์แบบทะลุ ผนวกกับโคมสีดำเข้ม ยิ่งทำให้ตัวรถดูสปอร์ตดุดันมากขึ้น เมื่อรวมเข้ากับปลายท่อไอเสียทรงรี 4 ท่อ ฝั่งล่ะคู่ ก็ทำให้ตัวรถดูแข็งแกร่งและสปอร์ตเป็นอย่างมาก
ในแง่ของมิติตัวรถ 2023 MG7 จะมาพร้อมกับขนาดความยาว 4,884 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,889 มิลลิเมตร สูง 1,447 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,778 มิลลิเมตร เมื่อนำไปเทียบกับผลิตภัณฑ์จากคู่แข่งในท้องตลาด MG7 จะมีขนาดพอๆ กับรถยนต์ซีดานขนาดกลางอย่าง Toyota Altis หรือ Honda Civic ซึ่งก็เป็นเป้าหมายที่ MG ได้วางตำแหน่งให้ MG7 ลงไปชนกับคู่นี้โดยตรง
ภายในรถ การออกแบบภายในของ MG7 ใหม่ ค่อนข้างเรียบง่าย ด้วยหน้าจอแบบสัมผัสคู่ขนาดใหญ่ ทำให้รถใหม่มีปุ่มที่ต้องใช้การกดหรือหมุนเพียงไม่กี่ปุ่ม เบาะนั่งจะเป็นหนังสังเคราะห์ผสมกับวัสดุพิเศษ พวงมาลัยแบบ Multu-Function คันเกียร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ปุ่ม Push Start ที่บ่งบอกว่าการเข้าถึงตัวรถนั้นจะเป็นระบบสมาร์ทคีย์ พร้อมกับการป้องกันการโจรกรรมที่ทันสมัย
ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น 2023 MG7 จะติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ เชื่อมต่อกับระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 9 สปีด ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่โดย SAIC ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า (KW) แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตรมีคุณสมบัติในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 6.5 วินาที นอกจากนี้ รถใหม่จะติดตั้งระบบเฟืองท้ายแบบลิมิเต๊ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ E-LSD และระบบกันสะเทือนที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบอัจฉริยะ mCDC ซึ่งน่าจะเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับรุ่นท๊อปของตัวรถ
ยังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในตลาดรถยนต์ประเทศจีน แต่ทางผู้ผลิตได้กล่าวว่าตัวรถจะมีการเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในช่วงเดือนที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะมีการประกาศรายละเอียดและข้อมูลของตัวรถที่มากขึ้นพร้อมกับการตัดเกรดและราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
Credit : www.dongchedi.com
[adsforwp id=”1302″]