ยังคงเป็นโมเดล SUV เรือธงที่มียอดจำหน่ายแถวหน้ามาโดยตลอดสำหรับ Toyota Harrier ที่ล่าสุดทาง Toyota ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการประกาศราคาพร้อมกับการตัดเกรดใหม่ของตัวรถออกมาอย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งานด้วยเครื่องยนต์ Hybrid และ PHEV ที่เป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้ในปัจจุบัน
[adsforwp id=”1302″]
2023 Toyota Harrier จัดว่าว่าเป็นโมเดลในรูปแบบ SUV ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โมเดลปัจจุบันเป็นการพัฒนาของเจนเนอเรชั่นที่ 4 ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมา โดยใช้แพลตฟอร์ม TNGA-K ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับที่ใช้งานบน RAV4 และ Lexus NX ซึ่งใช้ขุมกำลังขนาด 2.0 ลิตร รหัส M20A-FKS แบบ 4 ลูกสูบเรียง 169 แรงม้า
ในขณะที่ขุมกำลัง Hybrid จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส M20D-FKS 179 แรงม้า (HP) โดยมีมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า 2 แบบ ทั้งแบบ 1 ตัววางหลัง 54 แรงม้า (HP) และแบบวางหน้า 118 แรงม้า (HP) พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 1.6 kWh ในขณะที่รุ่น PHEV จะมาพร้อมกับขุมกำลังขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS ให้กำลัง 219 แรงม้า (HP) โดยมีมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า 2 ตัวที่จะให้กำลัง 180 แรงม้า (HP) และ 54 แรงม้า (HP) พร้อมกับแบตเตอรี่แบบเสียบชาร์จขนาด 18.1 kWh แบบ Lithium-ion ที่รองรับระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 93 กิโลเมตร
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับการตัดเกรดใหม่นั้น 2023 Toyota Harrier รุ่นเครื่องยนต์ ICE จะเริ่มต้นด้วยเกรด S โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบระบบขับเคลื่อน FWD และ AWD ขยับมาที่เกรดกลาง G ก็มีตัวเลือกระบบขับเคลื่อน 2 รูปแบบ เช่นเดียวกับเกรดที่สูงกว่าอย่างเกรด Z และ Z Leatter Package ที่จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 2 รูปแบบ โดยในปีนี้ ทางผู้ผลิตได้ทำการตัดเกรด G Leatter Package ออกไป และคาดว่าจะมีการนำเสนอแพ็กเกจสำหรับวัสดุหุ้มเบาะนั่งในห้องโดยสารใหม่ในเร็วๆ นี้
ในขณะที่รุ่น Hybrid HEV จะเริ่มต้นที่เหมือนกับรุ่นเครื่องยนต์ ICE โดยเริ่มจากเกรด S, G, Z และปิดท้ายด้วย Z Leatter Package โดยในรุ่น Hybrid จะมีตัวเลือกระบบขับเคลื่อนให้ใช้งาน 2 แบบ คือแบบ FWD และแบบ e-Four ในทุกๆ เกรด ส่วนรุ่น PHEV จะมีเพียงเกรดเดียวคือ Z เท่านั้น ไม่มีเกรดอื่นเป็นตัวเลือกเสริมแต่อย่างใด
ในขณะที่ราคาจำหน่ายนั้น รุ่นเครื่องยนต์ ICE จะเริ่มต้นด้วยราคา 3,128,000 เยน คิดเป็นเงินไทยจะตกอยู่ที่ 81,767 บาท และไปสุดที่เกรด Z Leatter Package ด้วยราคา 4,538,000 เยน หรือประมาณ 1.192 ล้านบาท ส่วนรุ่น Hybrid HEV จะเริ่มต้นด้วยราคา 3,718,000 เยน หรือราวๆ 976,613 บาท และไปแตะราคาสูงสุดที่ 5,148,000 เยน หรือราวๆ1.352 ล้านบาท ส่วนรุ่นท๊อปสุดอย่าง PHEV จะมีราคาเดียวคือ 6,200,000 เยน หรือประมาณ 1.628 ล้านบาท
Credit : creative311.com
[adsforwp id=”1302″]