หลังจากเปิดตัว Toyota C-HR ไปเมื่อปี 2016 ทางผู้ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ก็ได้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ไปทั่วโลก อีกทั้งตัวรถยังได้รับความนิยมและกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยม จนกระทั่งล่าสุดได้มีการเปิดเผยภาพเรนเดอร์ที่เป็นงานออกแบบตัวรถใหม่ ที่คาดว่าจะเป็นต้นแบบให้กับ C-HR เจนเนอเรชั่นที่ 2 ในอนาคต
[adsforwp id=”1302″]
โดยภาพชุดนี้ถูกเปิดเผยบนโลกออนไลน์ โดยมีข้อมูลบางส่วนเพิ่มเติม ซึ่งตัวรถนั้นจะถูกพัฒนาโดย ED² ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของ European Design Development ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ใช้พัฒนา C-HR รุ่นปัจจุบัน โดยตัวรถนั้นจะได้รับอิทธิพลการออกแบบมาจาก Toyota AYGO X PROLOGUE CONCEPT รถยนต์แนวคิดเมื่อปี 2021 โดยที่ตัวรถแนวคิดคันใหม่นี้จะใช้ชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า Toyota C-HR PROLOGUE
โดยตัวรถจะนำรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและพื้นผิวสามสีมาใช้อีกครั้งโดยการผสมผสานสีเงินและสีดำเข้ากับการเน้นสีส้มที่ตัดกัน ในขณะที่บางส่วนเราจะเห็นได้ว่าถูกใช้งานไปแล้วบน Crown และ Prius รุ่นใหม่ล่าสุด ด้านหน้าของตัวรถจะใช้รูปแบบของ Hammerhead พร้อมไฟหน้าที่บางลงและช่องกระจังหน้าขนาดเล็กลง ดูเฉียบคมกว่ารุ่นปัจจุบันและดูเหมือนว่าจะมีที่จับประตูด้านหลังอยู่ที่ซ่อนตัวอยู่ที่เสาหลัง
[adsforwp id=”1302″]
ตัวรถแนวคิดอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นกระจกมองหลังหรือด้านข้าง ที่ใช้ระบบกล้องแสดงผลบนหน้าจอภายในห้องโดยสาร โดยประเด็นหลักแล้วจะเป็นตัวช่วยในเรื่องของการสร้าง Aerodynamic ให้กับตัวรถ ขบล้อขนาดใหญ่ที่ดูจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของรถ Crossover ได้เป็นอย่างดี
เราจะเห็นได้ว่าในภาพนั้น ตัวรถจะถูกติดตั้งขอบล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ ซึ่งมักจะถูกลดขนาดลงเมื่อเข้าสู่กระบวนการของการผลิตเพื่อการจำหน่าย นอกจากนี้ เรายังค่อนข้างมั่นใจว่าบางส่วนของตัวรถเวอร์ชั่นผลิตจริงจะมีความแตกต่างออกไปจากรถแนวคิด ด้วยกระบวนการของการลดต้นทุนในการผลิตเพื่อให้สามารถควบคุมราคาจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ได้
ดังนั้นเราจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่หากทาง Toyota จะกลับไปใช้กระจกมองหลังแบบมาตรฐาน แทนที่การติดตั้งกล้องมองหลังและแสดงผลบนหน้าจอขนาดเล็กตามตัวรถแนวคิด เช่นเดียวกับกระจกมองข้าง ที่จะไม่ใช้กล้องแสดงภาพบนหน้าจอ แต่กลับไปใช้งานกระจกแบบมาตรฐานเพื่อลดต้นทุน
ทาง Toyota เองยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับระบบส่งกำลังของตัวรถ แต่คาดกันว่า มีความเป็นไปได้ที่ทางผู้ผลิตจะนำเสนอเครื่องยนต์ไฮบริด ทั้งแบบ Mind-Hybrid และ PHEV เพื่อการตอบสนองต่อตลาดสากล โดยจะไม่มีการใช้งานเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนอีกต่อไป อย่างไรก็ดียังไม่มีกำหนดการนำเสนอ หรือข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราคงต้องรอกันอีกอย่างน้อยๆ 2-4 ปี ถึงจะได้เห็นตัวรถเวอร์ชั่นผลิตจริง
Credit : creative311.com www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]