หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลอดอเมริกา พร้อมกับการเปลี่ยนรหัสประจำตัวใหม่จาก Kia Optima เป็น Kia K5 ก็ช่วงเปลี่ยนภาพลักษณ์ของรถในแนวทาง Luxury ให้เป็นสปอร์ตที่มากขึ้น เพื่อการต่อสู้กับ Toyota Camry และคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Hyundai Sonata และล่าสุดทางผู้ผลิตเกาหลีใต้ก็ได้ประกาศราคาจำหน่ายในตลาดอเมริกาอย่างเป็นทางการ
[adsforwp id=”198″]
2020 Kia K5 จะมีให้เลือกันหลากหลายรูปแบบโดยรุ่นมาตรฐาน LX ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ยังคงได้รับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมทั้งโหมดการขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามรูปแบบการใช้งาน โหมด standard, Normal, Smart, Sport และ Custom mode ซันรูฟแบบพาโนรามา, และกระจกอะคูสติกที่ช่วยลดเสียงลมขณะที่วิ่งด้วยความเร็วสูง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,455 ดอลล่าร์ (796,000 บาท) โดยที่รุ่น LXS จะมีพื้นฐานที่เหมือนกับ LX ทุกประการแตกต่างกันเพียงระบบขับเคลื่อนที่เป็นแบบ AWD ในราคา 27,555 ดอลล่าร์ (861,675 บาท)
รุ่นต่อมาคือ GT-Line ที่จะได้รูปลักษณ์ที่สปอร์ตกว่าและการตกแต่งภายในที่แตกต่างกัน โดยที่เครื่องยนต์จะขยับปรับเปลี่ยนเป็น 1.6 ลิตร สี่ลูกสูบเทอร์โบชาร์จ 180 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 ระดับ มีทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ FWD และ AWD โดยที่ราคาของรุ่น FWD จะอยู่เริ่มต้นที่ 26,365 ดอลล่าร์สหรัฐ (824,150บาท) และรุ่น AWD เริ่มต้นที่ 30,055 ดอลล่าร์ (955,490 บาท) ขยับมาสู้รุ่นที่หรูหรามากขึ้นกับ EX ที่จะอยู่ตรงกลางระหว่างรุ่น LXS และ GT-Line โดยตัวรถจะถูกตกแต่งให้หรูหรามากขึ้น ราคาอยู่ที่ 28,955 ดอลล่าร์ (905,425 บาท)
รุ่นท๊อปสุดสำหรับ 2020 Kia K5 จะเป็นรุ่น GT ที่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จที่ขยับแรงม้าเป็น 250 แรงม้า พร้อมแรงบิด 311 Ib-Ft ระบบเกียร์ DCT 8 สปีด ระบบคลัทซ์แบบ Wet-Clutch แต่น่าเสียดายที่ระบบขับเคลื่อนจะเป็นแบบ AWD เท่านั้น ราคาอยู่ที่ 31,455 ดอลล่าร์ (984,545 บาท) โดยมีแพ็กเกจเสริม GT-1 ที่จะมาพร้อมกับ ระบบ Smart Cruise Control, ไฟหน้า LED, ระบบเสียง Bose 12 ลำโพง, และจอแสดงผล Infotainment 10.25 นิ้วและอีกมากมาย
[adsforwp id=”198″]
สำหรับราคานั้น 2020 Kia K5 ทั้ง 5 รุ่นนั้น เรียกได้ว่าเป็นการตัดราคาคู่แข่งอย่าง Toyota Camry ซึ่งเมื่อเทียบราคาในรุ่นท๊อปแล้วจะมีความห่างกันอยู่พอสมควร แต่ถึงยังไงการเข้ามาของ K5 จะสามารถต้านทานเจ้าตลาดอย่าง Toyota หรือคู่แข่งเบอร์ใหญ่ๆ อย่าง Honda Nissan หรือแม้แต่ผู้ผลิตในประเทศอย่าง Hyundai ได้หรือไม่
credit : www.motortrend.com
[adsforwp id=”198″]