เรียกได้ว่าเป็นการหลุดของข้อมูลก่อนการเปิดตัวสำหรับ New Mazda 2 เวอร์ชั่น 2023 รถยนต์ขนาดกระทัดรัดรุ่นใหม่ ที่มีกำหนดการเปิดตัวและพร้อมจำหน่ายในวันที่ 27 มกราคมนี้ ในตลาดรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น โดยเอกสารดังกล่าวได้เปิดเผยให้เห็นถึงการตัดเกรดและการตกแต่งที่แตกต่างกันของตัวรถรุ่นใหม่ ที่ทำให้ตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นปัจจุบันพอสมควร
[adsforwp id=”1302″]
New Mazda 2 เวอร์ชั่น 2023 มีการปรับปรุงในส่วนของหน้าตาใหม่ โดยใส่องค์ประกอบของภาษาการออกแบบสมัยใหม่ของ Mazda ไว้ โดยเราจะเห็นจากในภาพซึ่งจะเป็นเกรด XD Sport+ เครื่องยนต์ดีเซล ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าสีดำ โดยลายของกระจังหน้าจะเป็นรุ่นเฉพาะของเกรด Sport+ พร้อมกับการประดับตรา Sport สีแดงที่กระจังหน้า ซึ่งทำให้แตกต่างจากเกรดอื่นๆ อีกทั้งกระจังหน้าเองก็มีการออกแบบใหม่ ที่ดูจะกว้างมากขึ้นและเตี้ยกว่าเดิม ซึ่งเราคงต้องมารอดูกันว่าการออกแบบนี้จะถูกนำไปใช้งานในเกรดอื่นๆ ด้วยหรือไม่
[adsforwp id=”1302″]
ในขณะที่ระบบส่งกำลังของ New Mazda 2 เวอร์ชั่น 2023 จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 ลูกสูบเรียง และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.5 ลิตร โดยแต่ล่ะประเภทจะมการแบ่งย่อยออกไป อย่างรุ่นเบนซินจะมีด้วยกัน 3 รุ่นใหม่นอกเหนือจากรุ่นมาตรฐานคือ รุ่น BD, Sport และ Sumit Citrus ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล จะมีรุ่น XD BD และรุ่น XD Sport+ ส่วนสีตัวถังใหม่นั้นจะมีการนำเสนอ 2 เฉดสีอย่าง Airstream Blue Metallic และ Aero Grey Metallic ในทุกๆ เกรด
ในรุ่น BD และ XD BD จะเป็นชื่อย่อมาจาก “Blank Deck” หรือรุ่นตัวรถเปล่าๆ ซึ่งจะเป็นรุ่นที่สนับสนุนให้ผู้ซื้อสามารถเลือกพาร์ทอะไหล่ตรงจากโรงงาน ไปติดตั้งบนตัวรถได้เอง โดยจะมีชุดแต่งและอุปกรณ์จำหน่ายแยกส่วน ไล่เรียงตั้งแต่ภายนอกตัวรถตั้งแต่ฝาครอบล้อ สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง ไปจนถึงภายในห้องโดยสาร ที่มีแผงข้าง แผงคอนโซล กรอบคันเกียร์ ไปจนถึงขอบบานเกล็ดช่องแอร์ ที่มีให้เลือกใช้ในการตกแต่งตามแนวทางของตนเอง
ในขณะที่เกรด Sport และ XD Sport+ นั้นจะมุ่งเป้าหมายไปที่ผู้ที่ชื่นชอบความเป็นรถสปอร์ตแบบสำเร็จรูป พร้อมซิ่งทันทีหลังออกจากโชว์รูม ด้วยชุดแต่งภายนอกแบบรอบคัน ขอบล้อลายพิเศษ หลังคาสีดำ และที่สำคัญในเกรดนี้จะมีระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดาจำหน่ายเท่านั้น ไม่มีระบบเกียร์อัตโนมัติเป็นตัวเลือก
ส่วนเกรดสูงสุดอย่าง Sumit Citrus จะมาพร้อมกับความหรูหราพรีเมี่ยม โดยเน้นไปที่การตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยเบาะนั่งหนังแท้ เบาะนั่งปรับไฟฟ้า แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย พ่วงมาด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่จะมีเฉพาะในเกรดนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับราคาจำหน่ายของตัวรถรุ่นใหม่ แต่ทางผู้ผลิตประกาศก่อนหน้านี้แล้วว่าจะพร้อมจำหน่ายทันทีหลังจากเปิดตัว ซึ่งคาดว่าราคาของตัวรถรวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกของตัวรถจะมีการประกาศในวันที่ 27 มกราคมที่จะถึงนี้ ส่วนประเทศไทยนั้น จะมีการอัพเดทโมเดลใหม่ในช่วงไหนคงต้องติดตามกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก creative311.com
[adsforwp id=”1302″]