Range Rover ผู้ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมจากประเทศอังกฤษ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของซีรี่ส์ Velar โดยมีการปรับสไตล์ของตัวรถใหม่ ทำให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น พร้อมกับรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม
[adsforwp id=”1302″]
Range Rover Velar รุ่นปี 2024 นั้น จะมาพร้อมกับการปรับปรุงภาพลักษณ์ของตัวรถใหม่ ด้วยการปรับปรุงชุดไฟหน้า ให้มีระบบ DRLs ที่ดูหรูหราราวกับอัญมณีขนาบข้างกระจังหน้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้านท้าย ส่วนล่างของกันชนได้รับการปรับปรุงเล็กน้อย โดยส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดของตัวรถจะอยู่ในห้องโดยสาร
[adsforwp id=”1302″]
ภายในห้องโดยสารของ Velar รุ่นใหม่นั้น จะใช้ระบบ Infotainment Display ขนาด 11.4 นิ้วแบบลอยตัว รองรับระบบสัมผัส และมีฟังก์ชั่นในการเข้าถึงตัวรถมากกว่า 80% ผ่านหน้าจอใหม่นี้ ตัวระบบจะรองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย อีกทั้งยังรองรับการอัพเดทแบบ Over the Air พร้อมกับการชาร์จแบบไร้สายในพื้นที่จัดเก็บแบบใหม่ในคอนโซลกลาง นอกจากนี้ยังมีการวางแผนการอัปเดต OTA สำหรับระบบส่งกำลังและแชสซี พร้อมด้วยแผนที่นำทางและการวินิจฉัยแบบออนบอร์ด เพื่อการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น โดยไม่ต้องนำตัวรถเข้าไปยังศูนย์บริการ
ในส่วนของเบาะนั่งนั้น มีการปรับวัสดุใหม่ โดยเลือกที่จะใช้ผ้าผสมโพลียูรีเทนในขณะที่การตกแต่งภายในด้วยหนังใหม่ 3 แบบมีสี Cloud, Raven Blue และ Deep Garnet เพื่อเพิ่มสีสันให้กับสิ่งต่างๆ ผู้ผลิตได้เลือกใช้สี Moonlight Chrome บนพวงมาลัย ช่องระบายอากาศ และคอนโซลกลาง เพิ่มความหรูหราและทันสมัยในเวลาเดียวกัน
ในรุ่นมาตรฐานของปี 2024 จะเริ่มต้นด้วยรุ่น P250 ที่จะมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 247 แรงม้า (HP) ควบคู่กับแรงบิด 269 Ib-Ft ส่งกำลังออกไปยังระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาตรฐานผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดใหม่ ที่ทางผู้ผลิตได้เผยว่ามีการปรับปรุงให้มีจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลกว่าเดิม
ในขณะที่ผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ต้องมองไปที่รุ่น P400 ที่จะมาพร้อมกับขุมกำลังขนาด 3.0 ลิตร 6 ลูกสูบเรียง ให้กำลัง 395 แรงม้า แรงบิด 405 Ib-Ft พร้อมกับมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้าและแบตเตอรี่ขนาด 48v แบบชาร์จได้เอง เชื่อมต่อด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนแบบ AWD
สำหรับการจำหน่ายในตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกา Range Rover Velar 2024 จะมีรุ่นมาตรฐาน P250 จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 61,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.01 ล้านบาท รุ่นพิเศษ P250 Dynamic SE จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 63,600 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.08 ล้านบาท ในรุ่นท๊อป P400 จะเริ่มต้นด้วยเกรด P400 Dynamic SE จำหน่ายเริ่มต้นที่ 70,600 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.31 ล้านบาท และเกรดสูงสุด P400 Dynamic HSE เริ่มต้นที่ 84,795 ดอลลาร์ หรือราวๆ 2.77 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]