รายงานจากสื่อในประเทศจีน ที่เผยว่า BYD ผู้ผลิตยานยนต์จากแดนมังกร กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Tang DM-i รุ่นปี 2023 ในวันที่ 4 มีนาคมที่จะถึงนี้
[adsforwp id=”1302″]
จากจุดเริ่มต้น BYD Tang เปิดตัวครั้งแรกในงาน Beijing Auto Show 2014 และในปี 2021 BYD ได้เปิดตัวรุ่น DM-i ที่เป็นโมเดลไฮบริด ที่ BYD พัฒนาขึ้นสำหรับรถ PHEV โดยมุ่งเน้นที่การใช้เชื้อเพลิงต่ำเป็นพิเศษ โดยเจ้า DM-i จะย่อมาจาก Dual Motor – Intelligent ซึ่งจะหมายความว่าตัวรถที่พ่วงรหัสนี้มานั้น จะมาพร้อมเครื่องยนต์สันดาปภายในพร้อมกับมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้าและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
[adsforwp id=”1302″]
จากข้อมูลล่าสุดที่รั่วไหลออกมาก่อนหน้านี้ BYD Tang DM-i รุ่นปี 2023 จะมีด้วยกัน 2 รุ่น โดยจะแบ่งแยกตามจำนวนที่นั่ง โดยจะเริ่มต้นจาก 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ซึ่งจะมีการติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ โดยจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 100 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 5.5 ลิตร และมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้าแบบ PHEV ที่ล้อหน้า ซึ่งระบบไฟฟ้านี้จะช่วยทำให้ตัวรถวิ่งได้ไกลถึง 112 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเพียง 1 ครั้ง
นอกเหนือจากข้อมูลของสเปกเครื่องยนต์แล้ว ยังมีการเปิดเผยเทคโนโลยีใหม่ที่อาจจะติดตั้งมาบนตัวรถรุ่นปี 2023 โดยจะมีระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ FSD ใหม่, ฟังก์ชัน NFC ของ Apple, การชาร์จเร็ว 40 kW และ Head-up Display รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสาร ด้วยชุดระบบเสียง Dynaudio ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ 5G ในขณะที่กระจกมองหลังแบบป้องกันแสงสะท้อนอาจถูกยกเลิก
ในด้านรูปลักษณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย รุ่นใหม่จะรักษากระจังหน้าที่เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท และคาดว่าจะมีการเพิ่มโทนสีอื่นเพื่อให้ผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้น สำหรับภายในห้องโดยสาร รถยนต์ใหม่ยังคงติดตั้งแผงหน้าปัด LCD เต็มรูปแบบและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสามก้าน ขณะที่ระบบควบคุมส่วนกลางติดตั้งจอแสดงผลมัลติมีเดียแบบหมุนได้ ที่กลายเป็นภาพจำของยานยนต์จากแบรนด์นี้ไปแล้ว
มีรายงานว่าตัวรถ BYD Tang DM-i 2023 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 209,800 หยวน หรือประมาณ 1.057 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรุ่นราคาต่ำกว่า 200,000 หยวน ที่จะทำการตัดฟังก์ชั่นบางอย่างเพื่อลดต้นทุนในการผลิต และการทำราคาแข่งกับตลาด หลังจากรัฐบาลจีนกำลังจะยกเลิกเงินอุดหนุนสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ปล่อยมลพิษต่ำในอนาคตอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com
[adsforwp id=”1302″]