เมื่อในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัว All New Honda CR-V รถยนต์อเนกประสงค์ SUV โฉมใหม่ ในต่างประเทศกันไปเรียบร้อยแล้ว โดยตัวรถจะมีการออกแบบที่ดูแข็งแกร่งและสปอร์ตมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยมิติตัวรถที่ใหญ่ขึ้นทุกมิติ และขุมกำลังแบบใหม่ ล่าสุดก็ได้มีรายงานข่าวออกมาว่า ตัวรถเองนั้น กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวกันในประเทศไทยเราในช่วงเดือนมีนาคม 2023 นี้แล้ว
[adsforwp id=”1302″]
โดยมิติของตัวรถ All New Honda CR-V โฉมใหม่คันนี้ จะมีการเพิ่มขนาดความกว้าง 0.4 นิ้ว ความยาว 2.7 นิ้ว และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 1.6 นิ้ว ซึ่งนับได้ว่ามันใหญ่โตขึ้นกว่าโฉมก่อนหน้านี้ ในทุกๆ มิติ รวมไปถึงการปรับตำแหน่งของเสา A ใหม่ ทำให้พื้นที่โดยสารภายในตัวรถนั้นกว้างขวางมากขึ้นกว่าเดิม ในส่วนของระบบกันสะเทือนด้านหน้านั้นจะเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ที่ปรับปรุงกันมาใหม่ด้วย
[adsforwp id=”1302″]
ตัวรถ All New Honda CR-V จะมีงานออกแบบที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ระบบไฟแบบ LED ทั้งด้านหน้าและด้านท้ายในดีไซน์ใหม่ ในขณะที่ล้อแม็กนั้นจะมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน (ตามในแต่ละรุ่น) โดยจะมีล้อแบบ 18 นิ้ว 10 ก้าน และล้อแบบ 19 นิ้ว 5 ก้าน ระบบเกียร์ CVT มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และแบบ AWD ในขณะที่งานออกแบบภายในตัวรถนั้น จะมีความคล้ายคลึงกันกับ All New Honda Civic โฉมล่าสุด มีการออกแบบแดชบอร์ดที่เรียบหรู แผงหน้าปัดดิจตอลขนาด 7 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมกับเครื่องเสียงระดับพรีเมียมของ Bose 12 ตำแหน่ง
ทางด้านขุมกำลังของตัวรถนั้น จะมีให้เลือก 2 รูปแบบคือ
1. เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ 1.5 ลิตร ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้กำลัง 190 แรงม้า และแรงบิด 243 นิวตันเมตร
2. เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แบบไฮบริด ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 204 แรงม้า และแรงบิด 335 นิวตันเมตร
ในส่วนฟีเจอร์สำหรับความปลอดภัยนั้น จะได้ระบบ Honda Sensing เวอร์ชั่นล่าสุด ที่มีกล้องมุมกว้าง 90 องศาใหม่และเรดาร์คลื่น 120 องศา คุณสมบัติหลัก ได้แก่ ระบบแจ้งเตือนการจราจร ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน พร้อมระบบการจดจำป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามรถคันหน้า ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ และระบบแจ้งเตือนมุมอับ ฯลฯ
ในประเทศไทยเรา จะมีการเปิดตัว ในช่วงเดือนมีนาคม 2023 นี้ ช่วงงาน Motor Show แต่จะมีฟีเจอร์ต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง รวมไปถึงรายละเอียดของตัวรถ จะแตกต่างไปจากเวอร์ชั่นโกบอลอย่างไร ต้องมารอติดตามกันต่อไป
[adsforwp id=”1302″]