เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับโมเดล PHEV รุ่นใหม่อย่าง Toyota Prius Prime ด้วยประสิทธิภาพการวิ่งด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ที่ได้ระยะทางที่มากถึง 70 กิโลเมตร
[adsforwp id=”1302″]
สิ่งที่ทำให้ Toyota Prius Prime เหนือกว่า Prius รุ่นมาตรฐาน คือการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 13.6 kWh บนตัวรถ และมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ช่วยเสริมกำลังกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทำให้ตัวรถมีอัตรากำลัง 220 แรงม้า (hp) แรงบิด 139 Ib-Ft และอัตราการเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ด้วยเวลาเพียง 6.6 วินาที และสามารถวิ่งทำระยะทางด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวได้ไกลมากถึง 44 ไมล์ หรือราวๆ 70 กิโลเมตรเลยทีเดียว
[adsforwp id=”1302″]
โดยล่าสุดมีการประกาศราคาและการตัดเกรดอย่างเป็นทางการในตลาดรถยนต์อเมริกาออกมา โดยรุ่นเริ่มต้นจะเป็นเกรด Prius Prime SE มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ล้อขนาด 17 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 8.0 นิ้ว ขยับขึ้นไปกับเกรด XSE จะเพิ่มล้อขนาด 19 นิ้วที่ใหญ่ขึ้น หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่เป็นอุปกรณ์เสริม และเบาะหนังเทียมแบบไฟฟ้า รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆ ในเกรดที่สูงขึ้น Prius Prime XSE Premium จะเพิ่มหน้าจอสัมผัสมาตรฐานขนาด 12.3 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบเสียง JBL ที่ได้รับการอัพเกรด และหลังคากระจกแบบพาโนรามา
ในส่วนของราคานั้น Toyota Prius Prime SE จะวางราคาเริ่มต้นไว้ที่ 32,350 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.102 ล้านบาท XSE จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 35,600 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.212 ล้านบาท เกรดXSE Premium ตัวท๊อปจะมีราคาจำหน่ายที่ 39,170 ดอลลาร์ หรือราวๆ 1.334 ล้านบาท โดยราคานี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1,335 ดอลลาร์ หรือราวๆ 45,483 บาท โดยประมาณ
ทั้งนี้ Toyota Prius Prime จะมีราคาที่สูงกว่ารุ่นมาตรฐาน ไปราวๆ 4,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 166,992 บาท) และแพงกว่า Prius Prime รุ่นก่อนหน้า 3,580 ดอลลาร์ (122,010 บาท) แต่ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่สูงขึ้น แต่ก็ยังมีราคาที่ถูกกว่า Toyota RAV4 Prime รุ่น PHEV อยู่พอสมควร
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]