พึ่งจะโชว์ตัวไปสดๆ ร้อนๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น สำหรับ Toyota Crown Sport ว่าที่ผลิตภัณฑ์จากซีรี่ส์ใหม่ของทางผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น โดยในงานไม่เพียงแค่ประกาศรูปแบบของตัวรถออกมาแบบไม่มีกั๊ก แต่ทางผู้ผลิตยังเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกบางส่วนของตัวรถออกมาอีกด้วย
[adsforwp id=”1302″]
Toyota Crown เจนเนอเรชั่นที่ 16 ใหม่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Crossover, Sport, Sedan และ Estate โดยทั้งสี่รุ่นยังมีเพียง Crown Crossover เพียงรุ่นเดียวที่ทำการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่นรวมไปถึงอเมริกา โดยอีกสามรุ่นที่ยังคงไม่เปิดตัวนั้น จะเริ่มเปิดตัวไล่เลี่ยกัน โดยจะนำโดย Crown Sport ที่มีกำหนดเการในช่วงก่อนเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ส่วนรุ่นที่เหลือจะทะยอยเปิดตัวก่อนสิ้นปี 2023
[adsforwp id=”1302″]
Toyota Crown Sport โฉมใหม่เป็นรถ SUV แบบคูเป้ สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA-K แบบเดียวกับ RAV4 โดยมีความยาว 4,710 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,880 มิลลิเมตร ความสูง 1,560 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,770 มิลลิเมตร โดยมีการคาดเดาว่าจะเป็นโมเดลที่ท้าชนกับผู้ผลิตจากยุโรปอย่าง Mercedes-Benz GLC Coupe, BMW X4 และอื่นๆ
ในแง่ของรูปลักษณ์ ตัวรถมาพร้อมกับภาษาการออกแบบใหม่ Hammer Head มีรูปทรงด้านหน้าที่เฉียบคม ตัวถังที่ลาดเอียงและเส้นสายของตัวถังที่แสดงออกถึงกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ทำให้ได้บรรยากาศแบบสปอร์ตที่แข็งแกร่ง ให้ความรู้สึกคล้ายกับ Ferrari Purosangue
ภายในห้องโดยสารจะมาพร้อมกับการตกแต่งแบบทูโทน สีแดงและดำ พื้นผิวเทียบได้กับรุ่น Lexus F Sport ติดตั้งหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว เบาะนั่งแบบสปอร์ต คันเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ เบรกมืออิเล็กทรอนิกส์ พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ทรงสปอร์ต โดยที่ยังคงรักษาปุ่มกดแบบกายภาพ ที่เราจะเห็นได้จากแผงควบคุมระบบปรับอากาศภายในตัวรถ
สิ่งที่น่าสนใจคือการเปิดเผยข้อมูลระบบส่งกำลัง โดยทางผู้ผลิตได้เปิดเผยว่าตัวรถ Crown Sport จะมีตัวเลือกเครื่องยนต์ไฮบริดHEV และ PHEV โดยมีแกนกลางเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four ส่วนความแตกต่างจากรุ่นที่เปิดตัวไปก่อนหน้าคือการเลือกใช้งานระบบกันสะเทือนแบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง DRS เพื่อให้มีสมรรถนะไดนามิกในการขับขี่ที่ดีขึ้นและเหมาะสมกับแนวทางที่สปอร์ตยิ่งขึ้นของตัวรถ
ยังไม่มีการเปิดเผยช่วงเวลาที่ชัดเจนในการเปิดตัว โดยทางผู้ผลิตบอกเพียงว่าตัวรถจะเปิดตัวภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 และแน่นอนว่ายังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่าย รวมไปถึงเกรดย่อยในการตกแต่งและอุปกรณ์เสริมหลังการขาย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก keyauto.my
[adsforwp id=”1302″]