กลับมาเขย่าวงการยานยนต์สายออฟโรดในตลาดอเมริกาอีกครั้ง สำหรับ Toyota Land Cruiser หลังจากรุ่นสุดท้ายที่วางจำหน่ายไปตั้งแต่ปี 2021 และการกลับมาในครั้งนี้ Toyota ได้จัดเต็มให้กับรถ SUV ระดับพรีเมียม 8 ที่นั่ง ทั้งในเรื่องของขนาดและสมรรถนะที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างชัดเจน
[adsforwp id=”1302″]
ในแง่ของการออกแบบนั้น Toyota Land Cruiser 2024 จะมาพร้อมกับรูปแบบของรถในสไตล์เรโทรย้อนยุคนิดๆ แม้ว่าจะไม่ใช่ FJ40 redux แบบไม่มีหลังคาอย่างที่หลายๆ คนคาดหวัง แต่ Land Cruiser ใหม่น่าจะเข้าถึงได้มากกว่ารุ่นที่ผ่านมา ตัวรถถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA-F รูปแบบเดียวกับที่ใช้งานบน Lexus GX และ 300-Series Land Cruiser แต่มีข้อได้เปรียบกว่าเล็กน้อย ด้วยการผลิตที่ลดต้นทุนลง ทำให้ตัวรถนั้นมีราคาจำหน่ายที่ถูกลงกว่ารุ่นก่อนหน้าและได้สมรรถนะที่เหนือกว่าจากที่เคยเป็น
[adsforwp id=”1302″]
Land Cruiser ปี 2024 จะมาพร้อมกับรูปแบบที่เรียกว่า Square-Jawed Style มีขอบหน้าต่างยกขึ้นกระจกบังลมหน้าเกือบเรียบและกระจกข้างตั้งตรงกันชนหน้าแบบบล็อกและกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจากโมเดลแรกในปี 1958 รุ่นเรือธงได้รับไฟหน้า LED ทรงกลม ในขณะที่การตกแต่งในระดับกลาง จะลดระดับวัสดุในการผลิตลงมา โดยจะใช้วัสดุที่เป็นพลาสติก ABS มากขึ้น เพื่อลดต้นทุนในการผลิต
ด้านหลัง Land Cruiser ทิ้งแถบไฟแบบเต็มความกว้างเพื่อให้มีไฟท้ายที่เรียบง่ายและเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มุม การออกแบบนั้นสวยงามไร้ขอบ และยางอะไหล่ขนาดเต็มนั้นซ่อนไว้ใต้กันชนหลังอย่างสวยงาม ตัวรถจะมาพร้อมกับยางติดรถแบบ all-season รองรับการขับขี่ในทุกๆ ฤดูกาล การออกแบบล้อก็เรียบง่ายเช่นเดียวกัน ทำให้ได้ฟิลลิ่งของรถในสมัยเก่า แต่ไม่ได้เรียบง่ายเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้งานได้จริง และพร้อมลุยในทุกสภาพถนน
ในขณะที่ขุมกำลังนั้น ตัวรถจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ I-Force Max turbocharged 2.4 ลิตร 4 สูบแถวเรียงที่รีดแรงม้าสูงสุดได้ 326 แรงม้า (hp) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 465 pound-feet และยังมีมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้าขนาด 48v จับคู่กับชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด โดยมอเตอร์นั้นจะเริ่มทำงานในรอบต่ำ ช่วยในการออกตัว และเค้นแรงบิดทันที ซึ่งเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจในการขับขี่เชิงออฟโรด มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นมาตรฐานเป็นการตั้งค่าแบบเต็มเวลาพร้อมกล่องเกียร์สองความเร็วที่เลือกได้ เช่นเดียวกับเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิปแบบอัตโนมัติและระบบ locking rear diff ที่ด้านหลัง
Land Cruiser รุ่นใหม่ทุกเกรด จะมาพร้อมกับระบบ low-speed crawl control เป็นมาตรฐานซึ่งจะควบคุมคันเร่งและเบรกเพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการบังคับเลี้ยวผ่านสิ่งกีดขวาง ในขณะที่ระบบ Downhill Assist Control ช่วยควบคุมความเร็วเมื่อลงทางลาดชัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จะพบได้บน Tacoma TRD Pro ตัวท๊อป ในขณะที่First Edition รุ่นเรือธง จะมาพร้อมกับระบบ Multi-Terrain Select ซึ่งจะนำเสนอการตั้งค่าที่แตกต่างกันเล็กน้อยสำหรับภูมิประเทศที่หลากหลายประกอบด้วย mud, rocks, และ sand รวมไปถึง Multi-Terrain Monitor ซึ่งจะแสดงภาพเส้นทางด้านหน้า ด้านล่าง และด้านข้างของรถ เพื่อเป็นตัวช่วยในการขับขี่แบบออฟโรดได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ในส่วนของอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารนั้น รุ่นเริ่มต้นจะได้รับเบาะนั่งด้านหน้าและพวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้ โดยเบาะนั่งจะเป็นการใช้วัสดุผ้าที่ดูแลรักษาได้ง่าย ในระดับกลางจะเปลี่ยนมาใช้วัสดุหนังเทียม Softex พร้อมเบาะนั่งด้านหน้าที่มีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดีกว่า ป้องกันการเกิดกลิ่นอับและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ขณะที่ First Edition รุ่นเรือธงจะได้รับหนังแท้ที่หรูหราและมีความนุ่มนิ่มสบายที่สุด
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้น คนขับจะได้หน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว ในขณะที่หน้าจอสาระบันเทิงส่วนกลางจะมีขนาด 8 นิ้วรองรับระบบสัมผัส ในส่วนของฟีเจอร์ช่วยเหลืออื่นๆนั้น ตัวรถจะมีระบบมาตรฐานประกอบด้วย adaptive cruise control, lane centering, automatic emergency braking, lane departure prevention,และ blind spot monitoring
ในส่วนของราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น Toyota ตั้งราคาขาย Land Cruiser รุ่นมาตรฐานในราคาเริ่มต้น 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.71 ล้านบาท โดยจะเข้ามาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Ford Bronco Badlands และ Jeep Wrangler 4xe ที่มีราคาเริ่มต้นไล่เลี่ยกัน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]