Nissan ผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ได้เปิดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในรูปแบบของรถสปอร์ตที่ถูกปรับแต่งโดยแผนก Nismo ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต่อเนื่องจาก Nissan Z Nismo และคราวนี้ก็ถึงคราวของรถในตำนานอย่าง Skyline ที่จะได้รับการปรับแต่งจาก Nismo อีกครั้ง และในครั้งนี้จะถูกผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น
[adsforwp id=”1302″]
แน่นอนว่า Nissan Skyline Nismo เวอร์ชั่นใหม่นี้ จะถูกปรับจูนโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญโดยตรงอย่าง Nismo โดยทางผู้ผลิตได้เปิดเผยว่าจะมีการอัพเกรดประสิทธิภาพเล็กน้อยเพื่อเสริมสุนทรียภาพในการขับขี่ โดยจะเน้นไปที่การปรับแต่งระบบกันสะเทือนเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม และลดอาการหมุนของตัวรถ ซึ่งทางผู้ผลิตเองก็ไม่มีการเปิดเผยเชิงลึกว่ามีการปรับปรุงในส่วนใดเป็นพิเศษบ้าง
[adsforwp id=”1302″]
ตัวรถจะมาพร้อมกับชุด body kit ที่เรียบง่ายพร้อมแผงด้านหน้าและด้านหลังแบบเฉพาะของ Nismo, กาบข้าง, ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ที่ได้รับการอัพเกรด และแบรนด์ Nismo มากมาย แน่นอนว่ามีขอบสีแดงตัดกับสีดำที่ด้านล่าง ภายในห้องโดยสาร จะพบกับเบาะนั่ง Recaro ที่ประดับตรา Nismo เช่นเดียวกับคอนโซลกลางและแผงหน้าปัด
สิ่งที่เราสะดุดตาเป็นพิเศษ คือขอบล้อจากแบรนด์ Enkei ขนาด 19 นิ้วเบากว่า กว้างกว่า และแข็งแรงกว่าที่ใช้กับ Skylines คันอื่นๆ นั่นทำให้ยางด้านหลังกว้างขึ้นเล็กน้อย และเมื่อถึงเวลาต้องหยุดรถ ผ้าเบรกที่ได้รับการอัพเกรดและระบบ ABS ที่ปรับแต่งใหม่จะทำให้ระยะการหยุดรถสั้นลง
ในส่วนของระบบส่งกำลังนั้น ตัวรถจะมาพร้อมกับขุมกำลัง V6 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่มีกำลัง 414 แรงม้า (Hp) พร้อมกับแรงบิด 550 นิวตันเมตร เพิ่มเติมด้วยโหมดการขับขี่ใหม่อย่าง sport และ sport+ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์และระบบกันสะเทือน โหมด performance จะมีการปรับอัตราทดเกียร์ อัตโนมัติ 7 สปีด ให้สอดคล้องกับกำลังที่เพิ่มขึ้น
Nissan กล่าวว่า Skyline Nismo จะเปิดตัวในเดือนกันยายน และมีแผนผลิตเพียง 1,000 คันเท่านั้น โดยจะมีการตกแต่งแบ่งออกเป็น 2 ระดับ โดยรุ่นมาตรฐานจะผลิตจำนวน 900 คัน โดยจะวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7,880,400 เยน หรือราวๆ 1.92 ล้านบาท ส่วนอีก 100 คันที่เหลือ จะถูกผลิตภายใต้แนวคิด Skyline Nismo Limited เป็นการแสดงความเคารพต่อ S54A-1 Skyline GT รุ่นคลาสสิก ในปี 1964 แต่สำหรับรุ่นพิเศษทั้ง 100 คันนี้ จะยังไม่เปิดจำหน่ายจนกว่าจะถึงปี 2024 หรือประกาศครั้งต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]