ปัจจุบันตลาดรถยนต์กระแสหลัก มีแนวโน้มที่จะเอียงความสนใจให้กับรถยนต์ที่ใช้ระบบส่งกำลังแบบ PHEV ซึ่งหนึ่งในรูปแบบการส่งกำลังนี้ กลับมีตัวเลือกที่ไม่มากมายนนัก หากมองว่ากลุ่มครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดในปัจจุบัน จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่ม Mild-Hybrid เสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทาง Toyota จึงได้ส่งโมเดล RAV4 Prime ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติในการวิ่งด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ได้ไกลสูงสุด 67.5 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 รอบเข้าสู่ตลาด
[adsforwp id=”1302″]
ตามรายงานของผู้ผลิตเอง ได้เปิดเผยว่าRAV4 Prime จะเริ่มต้นด้วยเกรด SE โดดเด่นด้วยการตกแต่งด้วยสีดำ ระบบท่อไอเสียคู่ และล้อขนาด 18 นิ้วที่มีสีทูโทน ผู้ซื้อยังจะพบพวงมาลัยหุ้มหนังและเบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับความร้อนได้พร้อมระบบปรับทิศทางด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางที่ฝั่งคนขับ ระบบเครื่องเสียง 6 ลำโพงหน้าจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาด 7 นิ้ว และระบบมัลติมีเดีย Toyota Audio Multimedia ขนาด 8 นิ้ว
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับการตกแต่งเพิ่มเติม จะถูกจำหน่ายในรูปแบบแพ็กเกจเสริม โดยมีแพ็กเกจเสริมเริ่มต้น Weather & Moonroof ซึ่งเพิ่มพวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้เบาะหลังแบบปรับอุณหภูมิได้ และที่ปัดน้ำฝนแบบตรวจจับฝนพร้อมฟังก์ชั่นกำจัดน้ำแข็ง
ในขณะที่ระดับที่สูงขึ้นมา จะเป็นเกรด RAV4 Prime XSE โดดเด่นด้วยไฟ LED แนวตั้ง ล้อขนาดใหญ่ 19 นิ้ว และโช้คอัพสีแดง รุ่นนี้ยังนำเสนอรูปลักษณ์ภายนอกแบบทูโทนโดยมีหลังคาสีดำผสมผสานกับสีตัวถังที่ตัดกัน ในห้องโดยสาร เบาะนั่งผ้าจะถูกแทนที่ด้วยเบาะนั่ง SoftTex แผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.5 นิ้ว ระบบเสียง JBL ขนาด 11 ลำโพงพร้อมซับวูฟเฟอร์
ไฮไลท์อื่นๆ ที่น่าสนใจสำหรับเกรด XSE คือการเสริมระบบไฟ Ambient ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย และกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติพร้อม HomeLink ลูกค้ายังสามารถรับแพ็คเกจที่เพิ่มเบาะนั่งคู่หน้าและหลังแบบปรับความร้อน และมูนรูฟแบบพาโนรามา เสริมได้อย่างอิสระ
ในขณะที่ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Toyota Safety Sense 2.5+ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกเกรด โดยมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติด้วยเรดาร์แบบไดนามิก ที่สามารถปรับความเร็วๆ ได้เองอัตโนมัติ ระบบเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยประคองพวงมาลัยและระบบป้องกันก่อนการชนพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ไฟสูงอัตโนมัติระบบช่วยป้ายจราจรระบบเตือนเบาะหลัง และระบบตรวจสอบจุดบอดพร้อมระบบแจ้งเตือนการจราจรด้านหลัง
ในขะที่ทุกเกรดจะมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์สี่สูบขนาด 2.5 ลิตร บวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และชุดแบตเตอรี่ขนาด 18.1 kWh ขับเคลื่อนด้วยระบบ AWD มีกำลังสูงสุดรวม 302 แรงม้า (hp) มีอัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ด้วยเวลา 5.5 วินาที และสามารถวิ่งด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 42 ไมล์ (67.5 กิโลเมตร)
ในส่วนของราคาจำหน่าย Toyota RAV4 Prime 2024 ในตลาดอเมริกานั้น จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 43,440 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยจะตกที่ราวๆ 1.586 ล้านบาท โดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]