เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2023 บริษัท Toyota Motor Corporation ได้ประกาศการปรับปรุงรถยนต์ BEV ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ภายใต้ชื่อ bZ4X สำหรับบุคคลทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ
[adsforwp id=”1302″]
โดยก่อนหน้านี้ Toyota ได้เปิดทดลองการใช้งาน bZ4X ในประเทศญี่ปุ่น โดยผ่านการสมัครสมาชิก KINTO เท่านั้น ซึ่งล่าสุดทางผู้ผลิตเองได้เปิดช่องทางในการสั่งซื้อแบบปกติ ที่ไม่ต้องสมัครสมาชิกอีกต่อไป แถมยังได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้ตัวรถมีส่วนลดสูงสุดถึง 1.3 ล้านเยน หรือประมาณ 311,532 บาท
[adsforwp id=”1302″]
แม้ว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมปี 2022 ที่ผ่านมา แต่ก็มีความสับสนอย่างมากในตลาดญี่ปุ่นเนื่องจาก Toyota bZ4X มีให้บริการแบบสมัครสมาชิกเท่านั้นและจะมีการเรียกคืนทันทีหลังจากการประกาศโดยตรงจากบริษัท ซึ่งส่งผลให้สมาชิกหลายๆ คนจะไม่ได้ใช้งานตัวรถต่อได้ แม้ว่าศักยภาพในฐานะ BEV จะสูงและสมรรถนะการขับขี่ก็แข็งแกร่งและสะดวกสบายในฐานะ SUV ระดับกลาง โอกาสในการขายมีจำกัดในตลาดญี่ปุ่น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับการทำตลาดอย่างเป็นทางการ
bZ4X มีพื้นที่สำหรับการเติบโตอีกมาก เนื่องจาก Toyota ได้ค้นคว้าและพัฒนามันอย่างมั่นคง จุดที่สำคัญที่สุดของการปรับปรุงบางส่วนนี้คือ การเปิดจำหน่ายแบบวงกว้างครั้งแรกในวันที่ 13 พฤศจิกายน ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าประมาณ 4,400 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับการจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น จะเริ่มต้นด้วยเกรด G โดยจะมีด้วยกันสองรุ่นประกอบด้วย FWD และ 4WD โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5.5 ล้านเยน หรือประมาณ 1.31 ล้านบาท ในขณะที่อีกทางเลือกจะเป็นเกรด Z ที่มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน FWD และ 4WD โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 6 ล้านเยน หรือประมาณ 1.43 ล้านบาท โดยที่ราคานี้จะยังไม่รวมส่วนลดจากกองทุนอุดหนุนของรัฐบาล ที่จะช่วยสมทบเงิน 850,000 เยน (ประมาณ 203,630 บาท) ในปี 2023 จากรัฐบาลท้องถิ่น และหากผู้ซื้ออาศัยในกรุงโตเกียว จะได้รับเงินสมทบเพิ่มอีก 450,000 เยน หรือราวๆ 107,780 บาท ส่งผลให้ตัวรถจะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 1.3 ล้านเยน หรือประมาณ 311,532 บาท เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม Toyota bZ4X เวอร์ชั่นจำหน่ายจริงในประเทศญี่ปุ่น จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นสมัครสมาชิกผ่าน KINTO โดยจะมีการเสริมประสิทธิภาพในการชาร์จ โดยจะรองรับการประจุแบบ quick charging ลดเวลาในการชาร์จลงสูงสุด 30% และปรับปรุงประสิทธิภาพการอุ่นเครื่องแบตเตอรี่เมื่อตัวแบตเตอรี่มีอุณหภูมิที่เย็นกว่าปกติ รวมไปถึงการลดระยะเวลาการชาร์จที่อุณหภูมิภายนอกต่ำ
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสาร โดยจะมีการเพิ่มเบาะนั่งที่สามารถปรับทิศทางได้ 8 ทิศทางผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เบาะหลังสามารถติดตั้ง Heater สำหรับปรับความร้อนได้ รวมไปถึงระบบไฟฉุกเฉิน ที่แจ้งเตือนเมื่อระบบตวรเจอรถหรืออะไรก็ตามที่กำลังเข้าใกล้ตัวรถด้วยความเร็วที่ผิดปกติ ซึ่งจะเป็นมาตรฐานสำหรับตัวรถในทุกๆ รุ่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก bestcarweb.jp
[adsforwp id=”1302″]