Honda Ridgeline เวอร์ชั่น 2024 กำลังได้รับการปรับปรุงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตกแต่งภายในที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งเรียนรู้บทเรียนบางส่วนจาก SUV เรือธงอย่าง Pilot
[adsforwp id=”1302″]
โดยตัวรถ Honda Ridgeline 2024 ได้รับการปรับแต่งแผงด้านหน้าและด้านหลังใหม่ การออกแบบตาข่ายของกระจังหน้าเป็นของใหม่ในปีนี้ และประตูท้ายแบบใหม่ได้รับการประดับชื่อของตัวรถ โดยไฮไลท์สำคัญคือห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบใหม่ ที่ถึงแม้ว่าจะมีความใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่คอนโซลกลาง โดยกลับไปใช้งานที่วางแขนแบบดั้งเดิมที่วางแก้วขนาดใหญ่ขึ้น และเครื่องชาร์จไร้สาย Qi หน้าจอสัมผัสมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยปรับขนาดเป็น 9.0 นิ้ว ซึ่งสามารถรองรับApple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายได้ สุดท้าย แผงหน้าปัดแบบไฮบริดขนาด 7.0 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
[adsforwp id=”1302″]
สิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในกลุ่มผลิตภัณฑ์คือรุ่น TrailSport ซึ่งเป็นโมเดลสำหรับการใช้งานเชิงออฟโรด โดยเป็นโมเดลในกลุ่มเดียวกับ Pilot TrailSport และ Passport TrailSport โดยมีการปรับแต่งแดมเปอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งช่วยปรับปรุงการยึดเกาะและข้อต่อ ระบบกันสะเทือนแบบออฟโรด สิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน Ridgeline TrailSport คือชุดยางสำหรับทุกสภาพผิวGeneral Grabber A/T Sport ซึ่งติดตั้งอยู่บนล้อขนาด 18 นิ้วที่ใช้ร่วมกันกับ Passport TrailSport ซึ่งจะให้แรงยึดเกาะมากกว่ายางสำหรับทุกฤดูกาลที่ใช้ในรุ่นมาตรฐาน สิ่งที่ทำให้ Ridgeline TrailSport แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานก็คือการตกแต่งพิเศษ โดยตัวรถจะมีตัวเลือกพิเศษอย่างสีตัวถัง Diffuse Sky Blue และเบาะนั่งหนังแบบเย็บและเดินด้วยด้ายสีส้มให้อารมณ์ที่สปอร์ตกว่าเบาะนั่งมาตรฐาน
ในขณะที่ระบบส่งกำลังนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้า โดยยังคงใช้งานเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตรที่มีกำลัง 280 แรงม้า (hp) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 262 pound-feet และมีกำลังในการลากจูงสูงสุด 5,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2.26 ตัน
การปรับเปลี่ยน Ridgeline ปี 2024 นั้นเล็กน้อยจริงๆ แต่ Honda อาจไม่มีแรงจูงใจในการเปลี่ยนแปลงตัวรถกระบะขนาดกลางมากนัก ถึงแม้ว่าตัวรถจะมียอดจำหน่ายที่พอไปได้ในตลาดอเมริกา โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคมของปี 2023 จนถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Honda จำหน่าย Ridgelines ออกไปได้ 43,701 คัน ซึ่งถือว่าเป็นยอดการจำหน่ายที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2006 ที่มียอดจำหน่ายประมาณ 50,000 คัน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]