จากการแสดงผลิตภัณฑ์ในงาน JAPAN MOBILITY SHOW 2023 ที่ผ่านมา Nissan ได้แสดงออกอย่างชัดเจนถึงการก้าวข้ามไปสู่ยุค EV ด้วยการนำเสนอสามโมเดลใหม่ ที่ล้วนแล้วแต่ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังไฟฟ้า และมีหนึ่งโมเดลที่อาจจะดูนอกกระแสแต่น่าสนใจอย่างเจ้า Hyperteller เป็นรถมินิแวน EV ระดับพรีเมี่ยม ที่ว่ากันว่าจะเป็นตัวแทนใหม่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์รถมินิแวนสุดหรูในปัจจุบัน
[adsforwp id=”1302″]
Nissan Hyperteller เป็นรถมินิแวน EV ระดับพรีเมี่ยมที่ผสมผสานจิตวิญญาณแห่งการต้อนรับและคุณภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยตนเอง การเดินทางในรถคันนี้จะทำให้คุณได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่คุณอยู่ด้วยมากยิ่งขึ้นและกระชับความสัมพันธ์ของคุณให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางส่วนตัวหรือเพื่อธุรกิจก็ตาม
[adsforwp id=”1302″]
ภายนอกซึ่งให้ความรู้สึกถึงการเดินทางที่สะดวกสบาย ประกอบด้วยแผงตัวถังที่เรียบและเส้นสายที่เฉียบคมซึ่งแสดงถึงความงามแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และรูปลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมและสง่างามที่กลมกลืนกับภาพรวมโดยรอบของตัวรถ ด้านตัวถังซึ่งไหลในแนวทแยงจากด้านหน้าไปยังบังโคลนหลัง ช่วยเพิ่มสมรรถนะตามหลักอากาศพลศาสตร์ และให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มนวลซึ่งผสมผสาน EV และการขับขี่แบบอัตโนมัติเข้าด้วยกัน
ด้านนอกจะพบกับเส้นสีขาวที่ตัดผ่านตัวรถตลอดคัน ที่ไม่เพียงแต่เพื่อความสวยงามแต่ทำหน้าที่เป็นไฟหน้าหรือไฟอันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย การผสมผสานระหว่างลวดลาย Kumiko การออกแบบที่มีรายละเอียด เช่น ล้อที่แสดงออกถึงความแม่นยำ และโครงสร้างพื้นผิวที่เรียบง่ายและมีขนาดใหญ่ทำให้เกิดความรู้สึกล้ำยุค สร้างความรู้สึกที่เหนือกว่าระดับอย่างแท้จริง
พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางพร้อมพื้นราบเรียบสนิทเกิดขึ้นได้ด้วย Nissan EV Technology Vision ซึ่งปฏิวัติบรรจุภัณฑ์ในรถยนต์โดยการบูรณาการส่วนประกอบขนาดเล็กและการรวมแบตเตอรี่ solid-state ความหนาแน่นพลังงานสูง จุดศูนย์ถ่วงต่ำเป็นพิเศษที่ได้จากเทคโนโลยีนี้ และการเร่งความเร็วและลดความเร็วที่ราบรื่นซึ่งทำได้โดยเทคโนโลยีการขับเคลื่อน e-4ORCE ทำให้การขับขี่ราบรื่นและมั่นคงในแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน
นอกจากนี้ ด้วยฟังก์ชัน V2X (Vehicle-to-Everything) พลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่ความจุสูงสามารถใช้ได้ไม่เพียงแต่จ่ายไฟให้กับบ้านหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ แต่เพียงพอต่อการจ่ายกระแสไฟให้กับ ร้านค้า สำนักงาน ซึ่งเหมาะมากกับการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงวันหยุด คอนโซลเหนือศีรษะและไฟส่องสว่างได้รับการออกแบบด้วยลวดลายมัมคัสและตาข่าย นอกจากนี้ โดยการผสานดิจิตอลและธรรมชาติผ่านเทคโนโลยี เช่น การฉายภาพทิวทัศน์บรรยากาศท้องฟ้าบนแผง LED ที่ติดตั้งบนพื้น เรากำลังสร้างพื้นที่ผ่อนคลายที่ให้ความรู้สึกหรูหราสไตล์ญี่ปุ่น
Nissan Hyperteller ติดตั้งเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบและที่นั่งคนขับและผู้โดยสารสามารถหมุนได้ 360 องศา เมื่อรถทำงานในโหมดการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าจะหันไปทางเบาะหลัง ช่วยให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินกับการสนทนาแบบเห็นหน้ากัน นอกจากนี้ ด้วยการติดตั้งหน้าจอแบบ wearable display ผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังสามารถดูและควบคุมข้อมูล เช่น ระบบนำทางและเสียงที่แสดงบนจอแสดงผลตรงกลางของเบาะหน้า ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันในหมู่ผู้โดยสารทุกคน
นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น AI พร้อมการติดตั้งไบโอเซนเซอร์บนพนักพิงศีรษะจะกำหนดอารมณ์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารโดยพิจารณาจากคลื่นสมองและอัตราการเต้นของหัวใจ และปรับเครื่องปรับอากาศและแสงสว่างโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างบรรยากาศภายในรถให้เหมาะสมที่สุด
อย่างไรก็ดี Nissan Hyperteller ยังคงอยู่ในสถานะของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าต้นแบบ ที่ยังต้องพัฒนาระบบอีกไกล เราอาจจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้นในอนาคต หากตัวรถได้เพิ่มสถานะเข้าสู่การพัฒนาอย่างจริงจัง ส่วนจะเริ่มพัฒนากันในช่วงเวลาใด คงต้องติดตามกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก creative311.com
[adsforwp id=”1302″]