ในที่สุด Tesla Cybertruck ก็มาถึงแล้ว แต่รู้สึกเหมือนว่าตัวรถจะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายส่วน แม้ว่าการออกแบบส่วนใหญ่จะยึดตามแนวทางของรถแนวคิดที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 แต่ราคาก็พุ่งสูงขึ้น และสเปกบางอย่างกลับไม่ได้เป็นไปตามคำกล่าวอ้างในตอนเปิดตัวครั้งแรก
[adsforwp id=”1302″]
ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2019 Tesla ได้ออกมาเปิดเผยตัวรถแนวคิดในรูปแบบของรถกระบะขนาดใหญ่ ที่มีชื่อว่า Cybertruck ซึ่งในตอนเปิดตัวครั้งแรกทางบริษัทได้สัญญาว่า จะเปิดตัวรุ่นเริ่มต้นด้วยสนนราคาที่ต่ำกว่า 39,900 เหรียญสหรัฐ และจะมีระยะทางวิ่งที่ไกลมากกว่า 250 ไมล์ขึ้นไป หรือมากกว่า 402 กิโลเมตรต่อชาร์จ
[adsforwp id=”1302″]
แต่ในการเปิดตัวล่าสุดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยเป็นการส่งมอบตัวรถเวอร์ชั่นการผลิตจริงจำนวน 10 คัน ให้กับลูกค้ากลุ่มแรกที่เป็นพนักงานของบริษัทเอง พบว่าตัวรถรุ่นเริ่มต้นมีราคาเพิ่มขึ้นสูงถึง 60,990 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 21,090 ดอลล่าร์ ซึ่งราคาใหม่นี้สูงขึ้นเทียบเท่าตัวของ Ford Maverick… ซึ่งนั้นหมายความว่า ตัวรถจะไม่ได้เข้าถึงได้ง่ายเหมือนที่กล่าวไวเมื่อปี 2019
แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเกือบ 53% แต่ Tesla ยังคงตั้งเป้าหมายระยะการวิ่งประมาณเท่าเดิมที่ 250 ไมล์ โดยมีความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงด้วยเวลา 6.5 วินาที ซึ่งใกล้เคียงกับข้อมูลของตัวรถรุ่นต้นแบบ ในขณะที่รุ่นมอเตอร์คู่ที่ตอนแรกตั้นราคาเริ่มต้นที่ 49,900 ดอลล่าร์ กลับเพิ่มขึ้นถึง 30,000 ดอลล่าร์ ทำให้มีราคาจำหน่ายจริง 79,990 ดอลล่าร์ (2.81 ล้านบาท)
ในขณะที่รุ่นสูงสุด ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ 3 ตัว จะมีราคาสูงถึง 99,990 ดอลล่าร์ (ประมาณ 3.51 ล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการที่สัญญาไว้ในตอนเปิดตัวถึง 30,090 ดอลลาร์ แต่กลับมีระยะทางวิ่งลดลงจากที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยลดลงมาเหลือ 320 ไมล์ต่อชาร์จ (515 กิโลเมตรต่อชาร์จ) แต่หากมองในทางที่ดี ตัวรถจะมีประสิทธิภาพจากมอเตอร์สามตัวที่น่าเหลือเชื่อ โดยจะสามารถรีดกำลังได้มากถึง 845 แรงม้า (hp) และมีอัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ด้วยเวลาเพียง 2.6 วินาที ซึ่งมันทรงพลังมากกว่า Porsche 911
จากทั้งหมดที่กล่าวมา สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าตัวเลขบางส่วนเป็นการประมาณการ ดังนั้นสิ่งต่างๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากนี้ Tesla ยังกล่าวถึง “Range Extender” สำหรับสองรุ่นบนสุด แม้ว่าข้อมูลเฉพาะจะยังคลุมเครือ นอกเหนือจากระยะ 470+ ไมล์ (756+ กม.) สำหรับรุ่นระดับกลางที่จะตามมาในอนาคตอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]