Automotive News Europe สื่อยานยนต์จากยุโรป ได้เปิดเผยข้อมูลและความเป็นไปได้ว่า Nissan Leaf รุ่นใหม่ที่มีกำหนดการเปิดตัวในปี 2025 นั้น จะมาพร้อมกับรูปลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้า SUV โดยใช้แนวคิด Chill-Out เป็นรากฐาน
[adsforwp id=”1302″]
ถือว่าเป็นการตอกย้ำสมมุติฐานของเราได้เป็นอย่างดี เมื่อสื่อยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของอยุโรปอย่าง Automotive News Europe ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่สูงมาก สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ Nissan Leaf เจเนอเรชั่นถัดไป ที่ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอว่า จะมีการดึงเอารูปลักษณ์และการออกแบบมาจากรถยนต์ไฟฟ้าแนวคิด Chill-Out ที่ปรากฎตัวเมื่อปี 2021 มาเป็นโครงร่างในการพัฒนา
[adsforwp id=”1302″]
โดยแนวคิด Chill-Out แตกต่างจากสไตล์ปัจจุบันของ Leaf อย่างมาก ตัวรถแนวคิด Chill-Out จะมีการออกแบบที่เน้นไปที่การทำพื้นผิวให้เรียบที่สุด และมีเส้นสายที่ค่อนข้างเรียบง่าย เรือนกระจกที่มีลักษณะคล้ายรถคูเป้ทำให้มีความสวยงามแบบสปอร์ต ล้อขนาดใหญ่ที่ผลักออกไปที่มุมด้านนอก และที่ดูจะแตกต่างที่สุดคือการไม่ใช่กระจังหน้าแบบ V-motion ที่เป็นเอกลักษณ์ปัจจุบันของผลิตภัณฑ์จาก Nissan
อีกสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างมาก คือภายในห้องโดยสาร โดยแนวคิด Chill-Out จะถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับชื่อแนวคิด ซึ่งจะเน้นไปที่การเดินทางอย่างผ่อนคลาย ด้วยระบบขับขี่และช่วยเหลือแบบอัตโนมัติ โดยโมเดลดังกล่าวจะไม่มีส่วนควบคุมการเคลื่อนที่เหมือนรถรุ่นต่างๆในปัจจุบัน ดังนั้นหากจะพัฒนาไปสู่รุ่นการผลิตจริง ห้องโดยสารจากแนวคิดนี้ จะต้องถูกเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่มากขึ้น
Nissan ประกาศว่าจะไม่สร้าง Leaf ด้วยโรงงานในอเมริกา แหล่งข่าวบอกกับ Automotive News ว่าผู้ผลิตรถยนต์วางแผนที่จะทำการด้านการผลิตจากโรงงานในอเมริกาไปยังสหราชอาณาจักรไม่ชัดเจนว่าบริษัทวางแผนที่จะส่งออกโมเดลไปยังตลาดอื่นๆ หรือไม่ แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ต้องสูญเสียสิทธิ์ในการรับเครดิตภาษีของรัฐบาลกลางมูลค่า 7,500 ดอลลาร์ของสหรัฐฯ ซึ่งนั้นจะหมายความว่า ผู้ที่จะซื้อ Nissan Leaf รุ่นต่อไปในอเมริกา จะต้องจ่ายแพงขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม หากวัดจากยอดการจำหน่ายทั่วโลกแล้ว Nissan Leaf รุ่นปัจจุบัน ที่ยอดขายที่ลดลงเรื่อยๆ จนน่าตกใจ โดยตลอดการทำตลาดในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ตัวรถมียอดจำหน่ายที่ต่ำกว่า 10,000 คันต่อปี โดยเฉพาะในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2023 ที่ผ่านมานี้ ยอดขายตัวรถในตลาดสหรัฐฯ ลดลงกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ อาจเป็นหนึ่งในปีที่ยอดขายแย่ที่สุดของโมเดลนับตั้งแต่เปิดตัว โดยจนถึงขณะนี้มียอดขายเพียง 5,804 คัน ซึ่งเป็นยอดจำหน่ายที่แย่ที่สุด นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2011 และนั่นเป็นเพียงข้อพิสูจน์ว่าผู้ผลิตรถยนต์จำเป็นต้องยกเครื่องโมเดลอย่างละเอียด
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]