Toyota Japan ได้ประกาศการอัพเกรดโมเดลใหม่ของ New Toyota Yaris 2024 อย่างเป็นทางการ โดยมีการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกเล็กน้อย และเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงในห้องโดยสารด้วยหน้าจอแสดงผลและหน้าจอส่วนกลางใหม่ที่ทำงานได้ดีกว่าเดิม
[adsforwp id=”1302″]
โดยประกาศในครั้งนี้ New Toyota Yaris จะมาพร้อมกับการปรับงานออกแบบส่วนกระจังหน้าใหม่ และตัวเลือกสีตัวถังใหม่ที่ไม่ต้องเพิ่มเงิน 1 สี คือ Massive Grey โดยที่หลักใหญ่ใจความจะเน้นไปที่การอัพเกรดในส่วนของห้องโดยสาร
[adsforwp id=”1302″]
ภายในห้องโดยสารจะพบกับหน้าจอแสดงผลส่วนคนขับใหม่ ที่ปรับขนาดจาก 4.2 นิ้ว ไปเป็น 7 นิ้ว โดยใช้หน้าจอแสดงผลแบบ Liquid Crystal+LCD Hybrid แยกส่วน ที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน และการอัพเดตหน้าจอสาระบันเทิงส่วนกลางใหม่ โดยใช้ขนาด 8 นิ้วเท่าเดิม แต่จะเพิ่มเติมประสิทธิภาพในการทำงานให้ใช้งานได้ง่ายและคุณภาพที่สูงกว่ารุ่นก่อนหน้า
นอกจากนี้ยังมีการอัพเดทคอนโซลกลางใหม่ โดยยังคงใช้งานเบรกมือมาตรฐานจากรุ่นก่อนหน้า ไม่มีการติดตั้งระบบเบรกอัตโนมัติ ABH หรือระบบเบรกจอดไฟฟ้า EPB ตามที่สื่อคาดเดากันไว้ แต่ก็ยังมีการปรับปรุงขอบด้านในของประตู และเปลี่ยนพวงมาลัยใหม่ที่กระชับกว่าเดิม
ในส่วนของระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ได้เพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เชิงรุก (PDS) ใหม่ โดยมีฟังก์ชั่นการตรวจสอบคนเดินบนทางเท้า และระบบตรวจสอบคนข้าม
ในส่วนของระบบส่งกำลังนั้น จะมีให้เลือกใช้งาน 2 รูปแบบ 3 ขนาด ประกอบด้วยระบบเบนซินล้วน ที่มีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้งาน 2 ขนาด ประกอบด้วย 1.0 ลิตร และ 1.5 ลิตร โดยรุ่น 1.0 ลิตร จะมีให้เลือกย่อยอีก 2 รุ่น โดยทั้งสองจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบ 2WD เท่านั้น และอีกรุ่นคือเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร จะมีให้เลือกทั้งระบบ 2WD และ AWD และมีให้เลือกระบบเกียร์ทั้งแบบธรรมดา 6 สปีดและอัตโนมัติ CVT
ในขณะที่รุ่น Hybrid นั้นจะมาพร้อมกับขุมกำลัง 1.5 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียมไอ-ออนแบบชาร์จได้เอง โดยจะมีตัวเลือก 3 เกรดและแต่ล่ะเกรดจะสามารถเลือกระบบขับเคลื่อนได้ทั้ง 2WD และ AWD โดยทั้งสามรุ่น จะวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 17 มกราคม 2024 ที่กำลังจะมาถึงนี้
ในขณะที่ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่นนั้น New Toyota Yaris รุ่น 1.0 ลิตร จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,501,000 เยน (ประมาณ 368,358 บาท) โดยมีการปรับราคาขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าที่ราวๆ 31,000 เยน (7,610 บาท) ในขณะที่รุ่น 1.5 ลิตร เกียร์ธรรมดา จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,579,000 เยน (ประมาณ 387,436 บาท) และสุดท้ายที่เกรด Hybrid 1.5 ราคาเริ่มต้นที่ 2,044,000 เยน (ประมาณ 501,545 บาท)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก creative311.com
[adsforwp id=”1302″]