Zeekr X เวอร์ชันพวงมาลัยขวารุ่นแรกได้ออกจากสายการผลิตแล้ว การส่งมอบในต่างประเทศคาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาสที่สามของปีนี้
รายงานก่อนหน้านี้ของออสเตรเลียระบุว่า Zeekr จะเปิดตัวที่นั่นในช่วงครึ่งหลังของปี ดังนั้นออสเตรเลียอาจเป็นจุดหมายปลายทางเริ่มต้นสำหรับเวอร์ชัน RHD (พวงมาลัยขวา) ซึ่งประเทศไทยก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน เนื่องจากทั้ง Zeek X และ 009 เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าที่งาน Bangkok International Motor Show เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ซึ่งมีรายงานว่าตัวรถที่รับจองล่วงหน้าภายในงาน จะได้รับการส่งมอบในไตรมาสที่สามของปีนี้ Zeekr วางแผนที่จะเปิดร้านค้าในไทยแห่งแรกในกรุงเทพฯ ในปีนี้ และจะค่อยๆ ขยายเครือข่ายการขายและบริการไปยังเมืองต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา
สิ่งที่แตกต่างของ Zeekr X เวอร์ชั่น RHD ที่จะเข้าสู่ตลาดที่ใช้รถพวงมาลัยขวานั้น มีเพียงตำแหน่งของพวงมาลัยเท่านั้น ที่แตกต่างออกไปจากรุ่นที่ทำการตลาดในประเทศจีน และมีตัวเลือกภายในที่มีให้เลือกใช้งานสองสี ประกอบด้วยสี Hangqing Green และสี Athens Cloud White ในขณะที่จำนวนที่นั่งของห้องโดยสาร คาดว่าจะมีตัวเลือกเดียวคือรุ่น 5 ที่นั่ง โดยจะตัดรุ่น 4 ที่นั่งออกไป เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานของตลาด ภายในห้องโดยสาร Zeekr X มาพร้อมกับแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้วสำหรับคนขับ และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.6 นิ้วตรงกลาง นอกจากนี้รุ่นท๊อปจะมีหน้าจอแสดงผลบนกระจกหน้าหรือ HUD เป็นอุปกรณ์เสริม
จากการเปิดตัวในประเทศไทยนั้น จะมีทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่โดยรถใช้แพลตฟอร์มสถาปัตยกรรม SEA ของ Geely ซึ่งรองรับการชาร์จแบบ 400V รุ่นมอเตอร์เดี่ยวที่ขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ขนาด 200 แรงม้า kw( แรงบิด 343 นิวตันเมตร ระยะทางสูงสุด 550 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC) ในขณะเดียวกัน รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะมีมอเตอร์เพิ่มอีกหนึ่งตัว โดยมีกำลัง 115 แรงม้า (kw) 200 นิวตันเมตร ที่เพลาหน้า รองรับระยะทาง 500 และ 512 กิโลเมตรต่อชาร์จ
แม้จะยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่การทำตลาดของ Zeekr X นั้น ค่อนข้างชัดเจนว่าจะแข่งขันโดยตรงกับ Tesla Model Y โดยมีจุดแข็งในเรื่องของราคาจำหน่ายที่ต่ำกว่า สำหรับตลาดประเทศไทยนั้น คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.4 ล้าน โดยเทียบกับราคาจำหน่ายในประเทศจีนปัจจุบันที่เริ่มต้นด้วยราคา 200,000 หยวน หรือราวๆ 1.03 ล้านบาทโดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com