หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดดูเหมือนว่า Geely ต้นสังกัดโดยตรงของแบรนด์ จะพร้อมแล้วสำหรับการส่งมอบตัวรถให้ไปถึงมือผู้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว
จากพื้นฐานแล้ว LEVC เป็นบริษัทผู้พัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าจากประเทศอังกฤษ ที่ทาง Geely เข้าซื้อกิจการมา โดยมีองค์ความรู้ในด้านการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้แบรนด์ค่อนข้างมีชื่อเสียงในประเทศจีน ด้วยการที่เป็นบริษัทผู้ผลิต TX London ซึ่งเป็นรถแท็กซี่ไฟฟ้าที่ใช้กันตามเมืองใหญ่ในประเทศ รวมถึงเป็นผู้ผลิตรถตู้หน้ายาวอย่าง VN5 ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง L380 นั้นค่อนข้างแปลกออกไป เพราะตัวรถ MPV คันนี้สามารถปรับที่นั่งในห้องโดยสารได้ตั้งแต่ 3 ที่นั่งไปจนถึงสูงสุด 8 ที่นั่ง ซึ่งนี้เองอาจจะเป็นที่มาของชื่อรุ่นก็เป็นไปได้
ตามแผนการจัดส่ง ผู้บริโภคที่ล็อคคำสั่งซื้อรุ่น Max และ Ultra โดยไม่มีการกำหนดค่าเพิ่มเติมก่อนวันที่ 20 กรกฎาคม จะได้รับการจัดส่งตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม และรายการที่ล็อคหลังวันที่ 20 กรกฎาคม จะได้รับการจัดส่งตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมเป็นต้นไป คำสั่งซื้อที่มีการกำหนดค่าเพิ่มเติมสำหรับรุ่น Max และ Ultra รวมถึงคำสั่งซื้อสำหรับรุ่น Pro จะถูกจัดส่งตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน คำสั่งซื้อสำหรับรุ่น Air จะเริ่มจัดส่งในวันที่ 20 ของเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
LEVC L380 ได้รับการออกแบบโดย Brett Boydell ที่อดีตเป็นนักออกแบบให้กับรถยนต์ Bentley สร้างขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์ม SOA (Space Oriented Architecture) ของ Geely ภายนอกได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินแอร์บัส A380 ดังนั้นชื่อของเครื่องบินจึงมีคำว่า ‘380’ อยู่ด้วย LEVC L380 เป็นรถ MPV ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โดยมีขนาด 5316/1998/1940 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 3185 มิลลิเมตร
การออกแบบโดยรวมของห้องโดยสาร เน้นความเรียบง่ายด้วยการผสมผสานสีดำและสีน้ำตาลมาพร้อมแผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 15.4 นิ้ว AR-HUD ขนาด 19.8 นิ้ว จอภาพสามมิติรูปตัว D พวงมาลัยแบบซี่ล้อ และปุ่มหมุนคริสตัลบนคอนโซลกลางสำหรับการควบคุมระบบมัลติมีเดีย ระบบปฏิบัติการได้รับการสนับสนุนโดย Flyme Auto ซึ่งขับเคลื่อนโดยชิปขนาด 7 นาโนเมตรเกรดยานยนต์ Dragon Eagle-1 สองตัว
ความพิเศษของห้องโดยสารคือความสามารถในการปรับเปลี่ยนที่นั่งได้อย่างอิสระ โดยจะสามารถปรับจากที่นั่งแบบ 2 ที่นั่ง ไปจนสูงสุด 8 ที่นั่ง (รวมคนขับ)ภายในห้องโดยสารมีถุงลมนิรภัย 11 จุด พร้อมด้วยถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับแต่ละที่นั่ง หน้าจอคู่ขนาด 12.8 นิ้วด้านหลังเบาะคู่หน้า หน้าจอที่วางแขนด้านหลังขนาด 5.98 นิ้วและหน้าจอขนาด 9.2 นิ้วสำหรับกระจกมองข้างแบบดิจิตอล นอกจากนี้ ยังมีตู้เย็นบนห้องโดยสาร ที่รองรับระบบทำความร้อนและความเย็น รวมถึงซันรูฟแบบพาโนรามาขนาด 2.18 ตารางเมตร
ในส่วนของระบบส่งกำลังนั้น กำลังในการขับเคลื่อนจะมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบเดี่ยวและคู่ โดยรุ่นมอเตอร์เดียวจะติดตั้งมอเตอร์ขนาด 200 แรงม้า (kw) บนเพลาหน้า ในขณะที่รุ่นมอเตอร์คู่นั้นจะติดตั้งมอเตอร์ที่เหมือนกันบนเพลาล้อหลัง โดยมอเตอร์แต่ล่ะตัวนั้นจะสามารถสร้างแรงบิดได้ 343 นิวตันเมตร อัตราเร่งสำหรับรุ่นมอเตอร์คู่บนความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะใช้เวลาเพียง 5.5 วินาทีเท่านั้น
ในส่วนของแหล่งพลังงานนั้น จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3 ขนาด ประกอบด้วย 100, 116 และ 140 kWhโดยที่แบตเตอรี่จะได้รับการสนับสนุนจาก CATL ซึ่งใช้เทคโนโลยี 3.0 Qilin ซึ่งมีความหนาแน่นของพลังงาน 200 Wh/kg และสามารถให้ระบะในการเดินทางสูงสุด 819 กิโลเมตร ในรุ่นมอเตอร์เดี่ยว (มาตรฐาน CLTC) นอกจากนี้ตัวรถยังสามารถให้ระยะในการวิ่งได้ 350 กิโลเมตร ด้วยการชาร์จบนสถานีจ่ายไฟกำลังสูง ด้วยเวลา 15 นาทีเท่านั้น
อีกหนึ่งไฮไลท์ของตัวรถ L380 นำเสนอการผสมผสานระหว่างระบบกันสะเทือนแบบ McPherson แบบข้อต่อลูกปืนคู่และการออกแบบสปริงลมในรุ่นท็อป ซึ่งเป็นระบบกันสะเทือนแบบใหม่ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนบนยานพาหนะส่วนบุคคล ส่วนรุ่นที่ต่ำกว่าจะมีโช้คอัพแบบหน่วงแปรผัน CDC ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานในระดับพรีเมี่ยมที่น่าสนใจไม่น้อย
ในส่วนของการจำหน่ายนั้น LEVC L380 จะวางจำหน่ายในประเทศจีนด้วยกันทั้งสิ้น 4 รุ่น โดยแยกตามขนาดของแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 379,000 หยวน หรือราวๆ 1.92 ล้านบาท โดยมีตัวเลือกสี Pearl White, Ink Jade Black, Sapphire Blue และ Emerald Green ให้ได้เลือกใช้งานตามความชอบ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com