หลังจากเปิดตัวอย่างแรกอย่างเป็นทางการไปได้ไม่นาน Neta ก็ได้ประกาศการจำหน่ายล่วงหน้าของ S ยานยนต์พลังงาน EREV อย่างเป็นทางการในประเทศจีนแล้ว
Neta S จะมาพร้อมกับรูปลักษณ์ของรถสเตชั่นแวกอน สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ Shanhai 2.0 การออกแบบภายนอกยังคงสอดคล้องกับซีดาน ส่วนหน้าใช้ชุดไฟท้ายแบบบางและช่องรับอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมู กันชนหน้าของรถมีไฟหน้าแบบบูรณาการ รถมีที่จับประตูแบบเรียบ กระจกหลังเคลือบสี สปอยเลอร์แบบสปอร์ต และชุดไฟท้ายเดี่ยว
ภายใน Neta S ยังคงสไตล์ที่คุ้นเคย ใช้หน้าจอแนวตั้งขนาดใหญ่ 17.6 นิ้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในระดับเดียวกัน คุณสมบัติอีกอย่างของคอนโซลกลางคือจอแสดงผลบนกระจกบังลมขนาดใหญ่ 49 นิ้ว รถยนต์สเตชั่นแวกอน Neta S ยังมีเบาะนั่งแบบปรับอุณหภูมิ ระบายอากาศพร้อมระบบนวดในตัว และมีการติดตั้งตู้เย็นขนาด 6.5 ลิตร รถยนต์คันนี้ใช้ชิป Nvidia Orin X และเซ็นเซอร์ AT128 LiDAR จาก Hesai ซึ่งเป็นโมเดลแรกของบริษัทที่ร่วมมือกัน โดยก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะเริ่มใช้เซนเซอร์ของ Hesai ในปี 2025
ดังที่กล่าวไว้ รถยนต์สเตชั่นแวกอน Neta S ได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์ม Shanhai 2.0 ใหม่ล่าสุด รถยนต์รุ่น EREV ขับเคลื่อนโดยระบบ Haozhi 2.0 มีเครื่องยนต์เบนซิน DAM15HE ขนาด 1.5 ลิตรจาก Harbin Dongan Auto Engine ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Changan กำลังสูงสุดอยู่ที่ 70 แรงม้า (kW) ซึ่งทำหน้าที่ในการปั่นกระแสไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ LFP ที่ผลิตโดย Gotion ซึ่งมีความจุ 31.7 kWh ในขณะที่ตัวเลือกแบตเตอรี่อีกตัวจะเป็นแบตเตอรี่ NMC แบบสามเฟสขนาด 43.9 kWh ที่ผลิตโดย EVE Energy ส่งพลังงานไฟขับเคลื่อนมอเตอร์ TZ210XS002 ที่เพลาหลัง โดยมีกำลังสูงสุด 200 แรงม้า (kW)
ตามข้อมูลของ MIIT ตัวรถจะมีขนาด 4980/1980/1480 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2980 มิลลิเมตร ระยะทางในการวิ่งแต่ล่ะรอบของ Neta S จะอยู่ที่ 125 และ 185 กิโลเมตร และสามารถรองรับระยะทางสูงสุดได้ถึง 1,200 กิโลเมตรต่อเชื้อเพลิงหนึ่งถัง
ในอนาคต Neta จะเปิดตัว S wagon รุ่น BEV โดยจะมีตัวเลือกระบบส่งกำลังสองแบบ แบบแรกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่เพลาล้อหลังสำหรับกำลัง 200 แรงม้า (kW) และรุ่น 4WD ที่มีกำลังขับเคลื่อนรวม 370 แรงม้า (kW) แต่ ณ ตอนนี้จะเปิดรับคำสั่งซื้อล่วงหน้าเฉพาะรุ่น EREV ไปก่อน โดยยังไม่เปิดเผยว่ารุ่น BEV จะเปิดขายในช่วงเวลาใด
Neta S EREV wagon มีราคาขายล่วงหน้าเริ่มต้นที่ 175,900 หยวน หรือประมาณ 862,460 บาท ในขณะที่รุ่นท๊อปสุด EREV 300 Max จะจำหน่ายในราคา 209,900 หยวนหรือราวๆ 1.03 ล้านบาท โดยผู้สั่งซื้อในล็อตแรกนั้นจะได้รับมอบตัวรถตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com