Geely ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีน ได้ปล่อยทีเซอร์อย่างเป็นทางการของรถออฟโรดรุ่นใหม่ Geely Icon “Cowboy” ซึ่งสร้างขึ้นจาก Geely Icon โดยก่อนหน้านี้ Geely Cowboy ได้รับการประกาศโดย MIIT ของประเทศจีน และสร้างความฮือฮามาแล้ว
Geely เปิดเผยว่า โมเดลใหม่นี้จะใช้ชื่อ Cowboy โดยตรง และจะไม่เกี่ยวข้องกับซีรี่ส์ Icon แต่อย่างใด แม้ว่าตัวรถจะใช้รากฐานของ Icon ในการปรับปรุง โดยตัวรถจะมีขนาด 442/1860/1770 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2640 มิลลิเมตร
สำหรับภายนอก Geely Cowboy ใช้ตัวถังแบบทูโทน ทำให้การออกแบบหลังคามีลักษณะที่ลอยตัว มีการเพิ่มชั้นวางสัมภาระ/อุปกรณ์ขนาดใหญ่บนหลังคา โดยมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระ 1.3 ตารางเมตร และรับน้ำหนักได้สูงสุด 50 กิโลกรัม มีการสลักคำว่า “Born Free” ไว้บนชั้นวางสัมภาระ นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งไฟสปอตไลท์สี่ดวงที่ด้านหน้าชั้นวางสัมภาระได้ตามต้องการ นอกจากนี้ที่ด้านหลังยังมีถังเก็บน้ำที่มีการออกแบบช่องเปิดด้านบนเพื่อรองรับการระบายน้ำ Geely Cowboy ใช้ยาง AT สำหรับการขับขี่แบบออฟโรดพร้อมคาลิปเปอร์สปอร์ตสีแดง ซึ่งช่วยเสริมคุณลักษณะออฟโรดของ Geely Cowboy ให้ดียิ่งขึ้น
ในเวลานี้ Geely ยังไม่ได้ประกาศข้อมูลการออกแบบภายในและการกำหนดค่าอย่างเป็นทางการ ระบบส่งกำลังจะยังคงติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาด 1.5 ลิตรที่มีกำลังสูงสุด 133 แรงม้า (kw) และแรงบิดสูงสุด 290 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ DCT 7 สปีด ซึ่งสอดคล้องกับพารามิเตอร์กำลังของ Geely Icon ที่กำลังวางจำหน่ายในปัจจุบัน
ปัจจุบันแนวโน้มของกิจกรรมกลางแจ้งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถออฟโรดจึงได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงตลาดสากล ดังนั้นไม่แปลกที่บรรดาผู้ผลิตต่างๆ จะหันมาให้ความสนใจกับรถเฉพาะกลุ่มแบบนี้ นอกจากนี้ BAIC เคยระบุก่อนหน้านี้ว่ากลุ่มผู้บริโภครถออฟโรดของจีนแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ประเภทแรกคือผู้ใช้ระดับมืออาชีพ โดยสถานการณ์การใช้งานของพวกเขาได้แก่ การใช้งานในกองทหาร ป่าไม้ และเหมืองแร่ ประเภทที่สองคือผู้ที่ชื่นชอบรถออฟโรดตัวยง ซึ่งชอบรถออฟโรดแบบสุดขั้ว คิดเป็นประมาณ 2% ประเภทที่สามคือผู้ที่ชื่นชอบรถออฟโรดทั่วไป คิดเป็น 8% และประเภทที่สี่เรียกว่าผู้ที่อยากขับรถออฟโรด ซึ่งมักใช้รถออฟโรดเป็นยานพาหนะ คิดเป็น 90%
สุดท้ายเรายังคงต้องรอดูข้อมูลและรายละเอียดอย่างเป็นทางการของ Geely Cowboy ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในประเทศอีกไม่อาทิตย์ข้างหน้า ส่วนจะเข้าสู่ตลาดสากลหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก carnewschina.com