ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบไฮบริด ได้รับความนิยมอย่างมาก และดูเหมือนว่า Subaru ก็มีแผนการรองรับกับระบบส่งกำลังที่กำลังได้รับความนิยมนี้
ด้วยยอดขายที่ลดลงของ Subaru Solterra และคู่แข่งที่แข็งแกร่งในกลุ่มเอสยูวีไฮบริดอย่าง Toyota RAV4 Hybrid และ Honda CR-V Hybrid อาจไม่น่าแปลกใจที่ระบบส่งกำลังไฮบริดเจเนอเรชั่นถัดไปของ Subaru กำลังมีรูปร่างหน้าตาที่จะปรับปรุงสถิติของตนในทุกด้าน เรากำลังพูดถึงพลังที่มากขึ้น วิ่งได้ไกลขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ใหญ่กว่า และถังน้ำมันที่ใหญ่ขึ้น ระบบนี้น่าจะทำให้ Subaru Forester 2025 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อไม่นานนี้ ซึ่งเรารู้ว่าจะมาในรูปแบบไฮบริดเช่นกันแต่ไม่มีรายละเอียดมากนัก มีโอกาสมากขึ้นในกลุ่มที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งข้อเสนอไฮบริดมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากระบบนี้จะใช้กับ Forester และ Crosstrek ปี 2025 มาทบทวนความทรงจำเกี่ยวกับยานยนต์เหล่านี้กัน Forester ใหม่ไม่ได้เบี่ยงเบนไปจากสูตรสำเร็จในอดีตเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าภายในจะได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ และภายนอกจะดูอนุรักษ์นิยมแต่ก็ดูสวยงาม แม้ว่าเครื่องยนต์ H-4 2.5 ลิตรที่ไม่ใช่ไฮบริดจะดูไร้ประสิทธิภาพก็ตาม กำลังเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นของรุ่นไฮบริดที่กำลังจะมาถึงจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ตัวรถกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง
Crosstrek ได้รับการแก้ไขสำหรับปี 2024 ด้วยรุ่น Wilderness ใหม่ที่ทนทานกว่า Crosstrek มีจำหน่ายพร้อมระบบส่งกำลังแบบ PHEV จนถึงปีรุ่น 2023 สำหรับปี 2024 จะกลายเป็นรุ่นที่ใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว โดยมีเครื่องยนต์ H-4 ขนาด 2.0 และ 2.5 ลิตร คาดว่าไฮบริดที่กำลังจะมาถึง เช่นเดียวกับ Forester จะเปิดตัวในปีหน้า
Subaru เปิดเผยรายละเอียดบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของระบบส่งกำลังแบบไฮบริด ที่น่าสนใจคือ ระบบไฮบริดจะมีความต่างจากระบบไฮบริดของพันธมิตรอย่าง Toyota ระบบของ Subaru จะยังคงโครงร่างเครื่องยนต์ H-4 และการเชื่อมต่อเพลาขับกับเพลาล้อหลังแทนที่จะเป็นระบบ e-AWD เครื่องยนต์จะมีขนาดใหญ่กว่าระบบไฮบริดรุ่นก่อนหน้า โดยใช้เวอร์ชันที่มีปริมาตรกระบอกสูบ 2.5 ลิตร ถังน้ำมันเบนซินจะมีขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 62.8 ลิตร เพื่อระยะทางที่มากขึ้น
แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีบางอย่างที่เหมือนกัน นั่นก็คือมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า ที่จะเหมือนกับของ Toyota โดยมีมอเตอร์ลากจูงและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ประกบเข้าด้วยกันพร้อมกับข้อต่อควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มอเตอร์สามารถสร้างพลังงานได้ทั้งหมด 88 แรงม้า (kW) และสามารถเป็นระบบขับเคลื่อนหลักได้ในหลายสถานการณ์ โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.1 kWh
Subaru กล่าวว่าระบบนี้จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับระบบไฮบริดรุ่นก่อนหน้า และวิ่งได้ไกลถึง 621 ไมล์ (ประมาณ 1,000 กิโลเมตร) ต่อเชื้อเพลิงหนึ่งถัง ซึ่งถือเป็นคำกล่าวอ้างที่ดูเกินจริงไปเล็กน้อย จนกลายเป็นข้อสงสัยว่าตัวรถจะสามารถทำได้อย่างที่ผู้พัฒนากล่าวอ้างหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motortrend.com