เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาทาง BYD ได้ประกาศว่ารถเก๋งซีดานปลั๊กอินไฮบริด Seal 05 DM-i จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ประเทศจีน เป็นรถในซีรี่ย์ Ocean Series โดยรถได้มีการจำหน่ายแบบ PreOrder แล้วตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา จะมีด้วยกัน 3 รุ่นให้ลูกค้าได้เลือก โดยมีราคาระหว่าง 89,800 – 109,800 หยวน หรือประมาณราว ๆ (4.25– 5.20 แสนบาท)
BYD Seal 05 DM-i ที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่าย
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกนั้น มีการออกแบบด้านหน้าโดยใช้แนวคิดการออกแบบล่าสุดของ BYD Ocean series ซึ่งด้านหลังไฟท้ายจะเป็นแบบทะลุและมีช่องระบายอากาศแบบซ่อน ผสมผสานกับการออกแบบหางเป็ดคล้าย “Seal 05” โดยที่ด้านขวาของประตูท้ายจะบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของรถคันนี้ได้เป็นอย่างดีนอกจากนี้ จะมาพร้อมกล้องสามมิติที่ติดตั้งอยู่ที่บริเวณกระจกบังลมหน้า กล้องหลังติดไว้ที่บังโคลนหน้า และกล้องติดที่กระจกมองข้าง อีกด้วย
รถมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเทาแบบ 2 เฉดสี, สีขาว และสีดำ
BYD Seal 05 DM-i ที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่าย
นอกจากนี้ BYD Seal 05 DM-i ยังเป็นโมเดลที่เปลี่ยนชื่อใหม่ของ BYD Destroyer 05 อีกด้วยโดยมีความยาว ความกว้าง และความสูง คือ 4780/1837/1515 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,718 มิลลิเมตร ซึ่งสูงกว่ารุ่น BYD Destroyer 05 ถึง 20 มิลลิเมตร ขณะที่มิติส่วนอื่นๆ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ Seal 05 DM-i คือระบบ BYD DM-i 5.0 PHEV กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรคือ 74 kW (99 แรงม้า) และกำลังสูงสุดของมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรคือ 120 kW (161 แรงม้า) ซึ่งจับคู่กับชุดแบตเตอรี่ LFP 7.68 kWh และ 15.898 kWh ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าบริสุทธิ์อยู่ที่ 43 กิโลเมตรและ 90 กิโลเมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำเพียง 2.95 ลิตร/100 กม. เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังและชาร์จเต็ม 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ระยะสูงสุดอยู่ที่ 2,000 กิโลเมตร เลยทีเดียว
ภายในตกแต่งด้วยสีเทาและสีเบจ หน้าจอควบคุมส่วนกลางแบบลอยได้ แผงหน้าปัด LCD ทรงสี่เหลี่ยม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นรูปตัว D และมือจับประตูทรงหยดน้ำ คอนโซลกลางเป็นแบบ “Heart of the Ocean” มาพร้อมคันเกียร์คริสตัล ที่วางแก้วน้ำแบบคู่ และแท่นชาร์จไร้สาย เป็นต้น
BYD Seal 05 DM-i ที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่าย
แถวหลังมีที่วางแขนตรงกลางแบบพับได้พร้อมที่วางแก้วน้ำ ถือว่าเป็นรถที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันเลยทีเดียว สำหรับรถราคาต่ำล้านคันนี้
ที่มา : carnewschina.com