Mitsubishi Xpander รถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาดเจ็ดที่นั่งจากโรงงานการผลิตในประเทศอินโดนีเซีย ถูกนำมาปรับแต่งใหม่โดย Xpander Rally Team ทีมแข่งแรลลี่ที่ได้รับการสนับสนุนโดย Team Ralliart New Zealand เพื่อใช้ในการแข่งขันแรลลี่ AP4 รายการแข่งขันย่อยของ WRC
[adsforwp id=”1302″]
โดยเจ้า Mitsubishi Xpander AP4 นั้นถูกปรับให้เข้ากับมาตรฐาน AP4 ที่มักจะใช้รถยนต์ขนาดเล็กแบบสี่ที่นั่ง ห้าประตูแฮชแบ็ก เป็นส่วนใหญ่ และมีการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 4B11T เทอร์โบชาร์จเจอร์ บล็อกเดียวกับ Lancer Evolution X แต่จะมีการปรับความยาวของช่วงชักใหม่เพื่อให้ได้ความจุ 1.6 ลิตร ตามมาตรฐาน AP4 แต่มันก็มีความสามารถในการสร้างพละกำลังสูงสุด 350 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 556 นิวตันเมตร ผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออิสระ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ Sadev sequential transmission 6 สปีด และเฟืองท้ายกลไกด้านหน้า ด้านหลัง และส่วนกลาง แบบเดียวกับ Evolution ที่ถูกห้ามเนื่องจากปัญหาด้านต้นทุน
[adsforwp id=”1302″]
ตัวถังที่โดดเด่นอยู่แล้วของ Xpander ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมด้วยส่วนขยายซุ้มล้อทรง boxy, deep front air dam, roof scoop และ goalpost-style rear wing ระบบกันสะเทือนสามารถปรับได้สำหรับการกระแทกและการลดแรงสั่นสะเทือนสำหรับทั้งความเร็วต่ำและสูงและขึ้นอยู่กับพื้นผิว ล้อขนาดใหญ่และยางlow-profile tarmac
ภายในตัวรถ Mitsubishi Xpander AP4 นั้นถูกปรับแต่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งแบบสปอร์ต OMP พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบหกจุด พวงมาลัย OMP ระบบเบรกมือไฮดรอลิกและกันโครงรถ full chromoly six-point roll cage พร้อมทั้งติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเหลือสำหรับรถแข่ง Rally ตามมาตรฐาน AP4
ด้วยการลงทุนที่ค่อนข้างจะสูงสำหรับการเปลี่ยนแปลงรถครอสโอเวอร์เพื่อใช้ในการแข่งขัน จึงมาซึ่งคำถามว่าด้วยเหตุใดทาง Xpander Rally Team ถึงต้อลงทุนกับรถแข่งใหม่ของตัวเองขนาดนี้ โดยทาง Rifat Sungkar นักแข่งของทีมได้กล่าวไว้ว่า “Xpander มีความสมดุลของแชสซีที่ดี และมันจะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า Xpander เป็นยานยนต์ที่น่าดึงดูดซึ่งสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าในกรณีใด AP4 จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านสุนทรียศาสตร์และสมรรถนะของรถแม้ว่าจะมีโอกาสสูงมากที่ผู้ซื้อจะได้เห็นศักยภาพของมันมากที่สุด”
นับว่าเป็นการลงทุนที่สูงมากสำหรับการแข่งขัน โดยเปรียบเทียบแล้วการเข้าถึงบนอุปกรณ์ที่ปรับแต่งสำหรับการแข่งขัน และรถที่ใช้ในสถานการณ์จริงนั้น มีความแตกต่างกันมากถึงมากที่สุด แต่โดยรวมแล้วการที่เราได้เห็นรถบ้านๆ ที่เราคุ้นตาถูกปรับแต่งให้กลายเป็นรถแข่งนั้นก็อาจจะเป็นแรงกระตุ้นและเพิ่มความสนใจบนตัวผลิตภัณฑ์ได้บ้าง แต่จะว่าจะส่งผลทุกคนหรือไม่คงเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากจริงๆ
Credit : paultan.org
[adsforwp id=”1302″]