หลังจากที่เปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ กับ All New Honda HR-V ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้สร้างกระแสความฮือฮากันเป็นวงกว้างไปในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลกโดยทันที รวมไปถึงประเทศไทยเราด้วย ทาง Thai Driving เลยจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมรายละเอียดของตัวรถแบบเต็มๆ ด้วยกัน พร้อมทั้งสีสันทั้งหมดของตัวรถในแต่ละรุ่น ว่าจะโดนใจสีไหน รุ่นไหน กันบ้าง?!
[adsforwp id=”1302″]
All New Honda HR-V โฉมใหม่นั้น นอกจากรูปทรงที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแบบเห็นได้ชัดแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงก็คือในเรื่องของขุมกำลัง โดยครั้งนี้จะมีให้เลือก 2 แบบคือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่ให้แรงม้าสูงสุด 131 ตัวที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 155 นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT
และเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่ให้แรงม้าสูงสุด 98 ตัวระหว่าง 5,600 – 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตรระหว่าง 4,500 – 5,000 รอบต่อนาที ทำงานแบบไฮบริดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้แรงม้าสูงสุด 109 ตัวระหว่าง 3,500 – 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตรระหว่าง 0 – 3,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
ส่วนทางด้านฟีเจอร์เด่นอย่างระบบ Honda Sensing นั้นจะมีติดตั้งมาให้ตั้งแต่ในรุ่นเริ่มต้นเลย โดยมันจะประกอบไปด้วย ระบบแจ้งเตือนและป้องกันขณะถอย, ระบบช่วยเบรกป้องกันการชนในระยะสั้น, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันตามรถคันหน้า, ระบบไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบป้องกันการสตาร์ทที่ผิดพลาด, พวงมาลัยอัตโนมัติป้องกันการชนคนเดินถนน, ระบบเบรกอัตโนมัติป้องกันการชน CMBS, ระบบป้องกันการออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยดึงกลับเข้าเลนแบบอัตโนมัติ, ระบบแจ้งเตือนก่อนการชน, ระบบจดจำสัญญาณจราจร
All New Honda HR-V จะมีรุ่นย่อยทั้งหมด 4 รุ่นดังนี้
รุ่น G – เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้าและ AWD (สี่ล้อ) ไฟหน้าแบบ LED, ระบบ Honda Sensing, หน้าจอ TFT 4.2 นิ้ว, ล้ออลูมิเนียม 16 นิ้ว, ระบบควบคุมการลงเนิน, โหมดการขับขี่ 3 โหมด ECO / NORMAL / SPORT และฟีเจอร์อื่นๆ
รุ่น E:HEV X – เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร ทำงานแบบไฮบริดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหน้าและ AWD (สี่ล้อ) สิ่งที่ได้รับเพิ่มมาจากรุ่น G ก็คือ หน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว, ตัวเลือกในการชะลอความเร็ว ท่ีช่วยให้ชะลอความเร็วรถได้โดยไม่ต้องเหยียบเบรก (คล้ายๆ กับของ Nissan Kick)
รุ่น E:HEV Z – เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร ทำงานแบบไฮบริดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหน้าและ AWD (สี่ล้อ) สิ่งที่ได้รับเพิ่มมาจากรุ่น E:HEV X ก็คือ ประตูไฟฟ้าด้านท้ายแบบแฮนด์ฟรี, ล้ออลูมิเนียม 18 นิ้ว, บอดี้ด้านล่างสีดำเงา, ไฟเลี้ยวแบบไล่แสงตามลำดับ, เบาะนั่งแบบ Combination Seat, แจ้งเตือนจุดบอด, ไฟเลี้ยวสำหรับการเข้าโค้ง, แอร์แถวหลัง และช่องชาร์จ USB ที่เพิ่มมากขึ้น
โดยทั้งรุ่น G, E:HEV X และ E:HEV Z จะเป็นสีแบบวันโทน (สีเดียว) ซึ่งจะมีทั้งหมดดังนี้
Sand khaki pearl
Premium Crystal Red Metallic
Crystal black pearl
Meteoriod Gray Metallic
Platinum white pearl
Premium sunlight white pearl
[adsforwp id=”1302″]
รุ่น E:HEV PLAY – เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร ทำงานแบบไฮบริดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหน้า สิ่งที่ได้รับเพิ่มมาจากรุ่น E:HEV Z ก็คือ หลังคาแบบพาโนราม่า, หน้าจอแสดงผล Honda Connect (Honda digital key, In-car Wi-Fi, Honda remote operation, Automatic map update, Emergency support center, Honda ALSOK rush service) โดยตัวรถจะมีสีทูโทน (หลังคา, เสา และตรงกระจกประตู) ระบบ PLAY Exclusive Coordination, ระบบชาร์จไวเลสไร้สาย ฯลฯ
โดยรุ่น E:HEV PLAY จะเป็นสีแบบทูโทน (สองสี) ซึ่งจะมีทั้งหมดดังนี้
Sand khaki pearl & black
Midnight blue beam metallic & silver
Crystal black pearl & silver
Meteoroid gray metallic & black
Premium sunlight white pearl & black
คาดการณ์ว่า All New Honda HR-V จะมีการเปิดตัวในประเทศไทยช่วงปลายปี 2021 นี้ ส่วนจะมีสเปคที่เหมือนหรือว่าแตกต่างจากของทางญี่ปุ่น จะต้องรอติดตามกันต่อไป
Credit : honda.co.jp response.jp
[adsforwp id=”1302″]