บริษัทสตาร์ทอัพ Cruise ร่วมทุนจาก GM และ Honda เปิดตัวรถรุ่นแรก Origin รถไฟฟ้าบริการสาธารณะแบบไร้คนขับ อีกหนึ่งขั้นของยานยนต์แห่งอนาคต!
[adsforwp id=”198″]
ในทุกวันนี้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือรถยนต์ไฟฟ้า 100% (EV) นั้นไม่ได้เป็นของที่แปลกใหม่แต่อย่างใด หากแต่จะเป็นเรื่องที่เห็นกันจนชินตาแล้วว่าแบรนด์ต่างๆ กำลังแข่งขันกันเพื่อก้าวข้ามมาอยู่ในตลาดกลุ่มนี้ แต่วันนี้รถที่ใครหลายคนอาจจะมองว่าเป็นเพียงจินตนาการได้เกิดขึ้นจริงแล้ว โดยบริษัทสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Cruise
Cruise นั้นเป็นบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่งในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ที่มีไอเดียสร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (Self-Driving Vehicle) ซึ่งพวกเขาได้รับทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง General Motor แห่งอเมริกา และต่อมา Honda ก็ได้เข้ามาร่วมลงทุนอีกเจ้าหนึ่ง ทำให้พวกเขามาถึงวันนี้ วันที่ได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์แรกที่อาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันของเราไป
[adsforwp id=”198″]
Cruise Origin เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV แบบ 6 ที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน มีประตูบานเลื่อน 4 บาน เปิดกว้างทั้งสองฝั่ง ซึ่งรถคันนี้สามารถวิ่งไปตามเส้นทางที่ผู้โดยสารกำหนดได้โดยอัตโนมัติ แบบไม่ต้องมีพวกมาลัย ไม่ต้องมีคันเร่ง ไม่ต้องมีคนขับ ซึ่งรถจะวิ่งไปตามเส้นทางด้วยสมองกล หรือ AI ที่ทำงานประสานกับระบบนำทาง เพื่อไปยังจุดหมาย
โดยในงานเปิดตัวนี้พวกเขายังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดสเปคใดๆ ออกมา ทำให้เรายังไม่ทราบชนิด-ขนาด ของแบตเตอรี่ กำลังของมอเตอร์ ไม่ทราบระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ไม่ทราบความเร็ว น้ำหนักบรรทุก แม้แต่ราคา หรือ สถานที่ประกอบผลิต ซึ่งทางบริษัทบอกแค่เพียงว่า มันจะเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง และมีอายุการใช้งานกว่า 1 ล้านไมล์
แต่สิ่งที่พวกเขาอยากจะนำเสนอนอกจากความล้ำหน้าของมันนั้น พวกเขาได้แสดงให้เห็นถึงแนวคิดการออกแบบ และการใช้ประโยชน์ของ Origin คันนี้ โดยมันจะเป็นรถที่เน้นการให้บริการสาธารณะ ผ่านผู้ให้บริการชื่อดังอย่าง Uber,Lyft โดยภายในห้องโดยสารนั้นนอกจากจะมีพื้นที่กว้างขวางยังมี สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ทั้งเบาะวางแขนกลาง(กรณีนั่งฝั่งละ 2 คน) หน้าจอแสดงสถานะ รวมไปถึง พอร์ต USB เพื่อการชาร์จไฟ และปุ่มควบคุมประตูสำหรับทุกที่นั่ง
View this post on Instagram
ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังรือกับ หน่วยงานความปลอดภัยการจารจรทางหลวงแห่งชาติ หรือ NHTSA เพื่อที่นำรถรุ่นนี้วิ่งทดสอบในเมืองว่าจะสามารถทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน โดยต่อจากนี้ไปจะต้องมาติดตามดูกันว่าพวกเขาจะพัฒนามันให้ใช้งานได้จริงเมื่อไหร่ และ AI ของ Cruise จะฉลาดล้ำกว่า Tesla หรือบริษัทอื่นๆ หรือไม่ต้องรอติดตามกันครับ!
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก caranddriver.com
[adsforwp id=”198″]