New Mitsubishi Outlander PHEV รถ SUV พี่ใหญ่ค่ายตรีเพชรเตรียมจะเผยโฉมในญี่ปุ่นมิถุนายนนี้ !
[adsforwp id=”198″]
Mitsubishi Outlander เป็นอีกหนึ่ง SUV รุ่นใหญ่จากค่าย ซึ่งมันได้รับความนิยมในญี่ปุ่น และทางยุโรปพอสมควร โดยปัจจุบันมันกำลังจะก้าวมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 4 ในโฉมปี 2020 นี้ ซึ่งช่วงปีก่อนนี้ก็ได้มีข่าวคราว ภาพหลุด และคาดการณ์สเปคต่างออกมาอย่างมากมาย วันนี้เราจะลองมาสรุปกันอีกครั้งหนึ่งว่าความเป็นไปได้ต่างๆ ของ Outlander โฉมใหม่คันนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับโครงสร้างของ Outlander PHEV 2020 นั่นคาดว่าจะใช้แพลทฟอร์มร่วมกับ Nissan X-Trail โฉมปัจจุบัน (ซึ่งมีกระแสข่าวว่าสองรุ่นนี้จะได้เปิดโฉมใหม่พร้อมกัน หรือในเวลาไล่เลี่ยกัน) ส่วนโฉมหน้าภายนอกนั้น จะมาในรูปแบบดีไซน์ Dynamic Shield เช่นเดียวกับรุ่นน้องคันอื่นๆ แต่คาดว่าจะมีการออกแบบให้ดูสปอร์ตมากขึ้นจากโฉมเดิม และแน่นอนว่าต้องมาในสีบรอนซ์เงิน อันเป็นเอกลักษณ์ และตามมาด้วยสีพื้นๆ อย่างสีดำตัดกับเส้นสายโครเมี่ยมตามจุดต่างๆ เป็นต้น
ส่วนเรื่องขนาดนั้น หากยึดจาก X-Trail โฉมปัจจุบันเป็นหลัก ที่ความยาว 4,700 มม. x กว้าง 1,810 มม. x สูง 1,730 มม. และ ระยะฐานล้อ 2,700 มม. เมื่อเทียบกับ Outlander โฉมปัจจุบันแล้วจะพบว่าตัวถึงของ X-Trail จะใหญ่กว่าในทุกมิติเล็กน้อย แต่จุดที่แตกต่างกันที่สุดคือระยะฐานล้อ ที่ยาวกว่า 30 มม. ซึ่งจะส่งผลต่อ Legs Room ของผู้โดยสารแถว 2 และ 3 ที่น่าจะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
[adsforwp id=”198″]
สำหรับเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์นั้น คาดว่าจะมาในพิกัด 2.4 และ 2.0 ลิตร แบบ PHEV (Plug-in Hybrid) ซึ่งจะให้พละกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวสูงสุดที่ 307 แรงม้า (ps) โดยจะมาจากเครื่องยนต์ 130 แรงม้า, มอเตอร์หน้า 82 แรงม้า และหลังอีก 92 แรงม้า ส่วนแรงบิดรวมสูงสุดนั้นจะอยู่ที่ 199 นิวตันเมตร
ส่วนราคาคาดการณ์สูงสุดนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 5.3 ล้านเยน โดยหากเทียบ โฉมปัจจุบันราคาจะอยู่ประมาณ 3.9 – 5.3 ล้านเยน หรือประมาณ 1 ล้าน – 1.5 ล้านบาท (คิดตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 24 มกราคม 2020) ซึ่งจะเห็นว่าราคาจะไม่ได้ต่างไปจากเดิม เพราะมันไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ มากนัก จะเป็นเพียงการปรับหน้าตาภายนอก ภายใน และเพิ่มเทคโนโลยีต่างๆ ตามยุคสมัยเท่านั้น ส่วนเครื่องยนต์ยังคงเป็นชุดเดิม
ส่วนคำถามที่ว่าคนไทยจะได้ใช้ Mitsubishi Outlander PHEV คันนี้หรือไม่นั้น คงต้องบอกว่าเป็นไปได้ยากพอสมควร เนื่องจากบ้านเรานิยมรถแนว PPV (Pick-up Passenger Vehicle) หรือรถ SUV ที่ใช้พื้นฐานมาจากรถกระบะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถเหล่านี้ผลิตได้เองในบ้านเราโดยใช้แพลทฟอร์มเดียวกันกับกระบะรุ่นต่างๆ ทำให้มันมีราคาที่ไม่แรงมากนัก เมื่อเทียบกับรถ SUV แท้ ที่มีแพลทฟอร์มเฉพาะ และไม่ได้แชร์โครงสร้างนี้กับรุ่นอื่นๆ มันจึงมีราคาต้นทุนต่อหน่วยที่สูงกว่า และส่งผลให้มันมีราคาสูงกว่าคู่แข่ง PPV ในตลาด จนสู้ได้ยากนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก creative311.com