ประกาศอย่างเป็นทางการจากแผนการยุโรปของบริษัท Nissan ถึงการนำเอา SUV รุ่นใหม่ Nissan Qashqai ที่จะมาพร้อมกับขุมกำลัง e-POWER ในการทำตลาดในยุโรปเป็นครั้งแรกในปี 2023 และยังมีรุ่น Hybrid ที่ยังคงมีขุมกำลังหลักเป็นเครื่องยนต์สันดาปบวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก จำหน่ายควบคู่กันไปด้วย
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับ Nissan Qashqai เป็นรถ SUV ขนาดกลาง ที่เดิมทีเคยทำตลาดต่างประเทศภายใต้ชื่อ Dualis อย่างเช่นในอเมริกา บราซิล และญี่ปุ่นประเทศต้นทางของบริษัท ซึ่งในปัจจุบันเองถูกยกเลิกและยุบรวมเข้ากับ X-Trail จึงทำให้ไม่มีโมเดล Qashqai จำหน่ายในตลาดรถยนต์ญี่ปุ่น โดยล่าสุด การเข้าสู่ตลาดยุโรปในปี 2023 นั้นทางบริษัทได้ตัดสินใจนำเอาเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอย่างเครื่องยนต์ e-POWER ที่ใช้เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าที่ส่งไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อนที่เพลาล้อ ทำให้การทำงานของระบบนั้นมีการปล่อยก๊าซไอเสีย และมลพิษทางเสียงที่ต่ำมากๆ
คุณลักษณะของ e-POWER คือเครื่องยนต์เบนซินใช้สำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าเท่านั้นและขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นผลให้เครื่องยนต์ทำงานภายในช่วงที่เหมาะสมที่สุดเสมอ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยค่า Co2 ที่ต่ำกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วไป ในกรณีของ Qashqai ใหม่ มอเตอร์ของระบบ e-POWER ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (HP) เทคโนโลยีอัตราส่วนการอัดแบบแปรผันถูกนำมาใช้ในเครื่องยนต์เบนซินสำหรับการผลิตพลังงานโดยเฉพาะ ซึ่งเครื่องยนต์จะสามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ 157 แรงม้า (HP) และส่งต่อไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อหมุนเพลาล้อ
[adsforwp id=”1302″]
Qashqai e-POWER ใหม่มีโหมดการขับขี่สามโหมด “มาตรฐาน” “สปอร์ต” และ “Eco” ในโหมดมาตรฐาน ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมและเบรกแบบ Engine Brake ที่คล้ายกับเบรกด้วยเครื่องยนต์ของรถยนต์เบนซินหรือดีเซลทั่วๆไป ในโหมด sport เครื่องยนต์จะมีแรงฉุดที่น้อยลงเพื่อปรับปรุงการตอบสนองต่ออัตราเร่ง ในโหมด Eco ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงโดยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการแบตเตอรี่และการระบบคันเร่งระหว่างการขับขี่ที่บรรทุกสัมภาระต่ำ
Qashqai ใหม่ที่ติดตั้ง e-POWER ไม่เพียงแต่เร่งความเร็วได้เร็วกว่ารถยนต์ไฮบริดของคู่แข่งเท่านั้น แต่ยังภูมิใจในการเร่งความเร็วด้วยความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำลงด้วย ระบบทำงานเงียบเท่ากับ EV เต็มรูปแบบและมุ่งเน้นไปที่การเชื่อมโยงระหว่างความเร็วของเครื่องยนต์และความเร็ว ส่งผลให้มีความเงียบในระดับสูงแม้ในขณะเร่งความเร็ว
แน่นอนว่า Qashqai e-POWER จะใช้พื้นฐานจากระบบหลายๆ อย่างมากจาก Nissan “Leaf” โมเดล e-POWER รุ่นก่อนหน้าอย่างระบบ e-pedal ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ท เร่งความเร็ว และชะลอความเร็วได้โดยใช้แป้นคันเร่งเท่านั้น ว่ากันว่าสามารถครอบคลุมความสามารถถึง 90% ในการใช้งานจริงอีกด้วย ในสภาพการขับขี่ในเมืองที่มีการแวะพักหลายครั้ง โหมด e-pedal จะให้อัตราเร่ง G สูงสุด 0.2G เมื่อคุณเหยียบคันเร่ง ช่วยลดความจำเป็นในการเหยียบคันเร่งและแป้นเบรกได้อย่างมาก ทำให้การขับขี่ง่ายขึ้นและผ่อนคลายมากขึ้น
จะว่าไปแล้วระบบ e-pedal ที่กล่าวมานั้นก็ยังต้องใช้ควบคุมกับแป้นเบรกมาตรฐาน สำหรับการหยุดรถ เบรกหนัก หรือหยุดเพื่อจอดอยู่ดี แต่มันจะช่วยเหลือในขณะการขับขี่ในเมืองที่ใช้ความเร็วต่ำ รวมไปถึงบนถนนที่คดเคี้ยวหรือเส้นทางที่เป็นทางชัน จะลดโอกาสในการเบรกขณะเข้าโค้ง ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบการทำงานของระบบผ่านหน้าจอแสดงผลส่วนคนขับแบบ TFT ขนาด 12 นิ้วได้
ไม่เพียงแต่รุ่น e-POWER เท่านั้น Nissan Qashqai ยังมาพร้อมกับตัวเลือกที่คุ้นเคยอย่างเครื่องยนต์ Hybrid 1.3 ลิตรเทอร์โบ Direct Injection ที่พ่วงมากับมอเตอร์ขับและแบตเตอรี่ที่มีเทคโนโลยี “12V ALiS” ที่สามารถประจุไฟกลับเข้าไปยังแบตเตอรี่ได้ในขณะที่ตัวรถทำการเบรกหรือชะลอความเร็ว โดยที่ตัวรถจะมอบกำลังสูงสุด 138 แรงม้า (HP) และตัวเลือกระบบส่งกำลังแบบธรรมดา 6 สปีดและอัตโนมัติ CVT “Extronic” ที่จะช่วยเพิ่มกำลังให้กับตัวรถให้มากถึง 156 แรงม้า (HP)
Credit : spyder7.com
[adsforwp id=”1302″]