หลังจากที่เราได้นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจของ Nissan Sylphy e:POWER ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเว็บบล็อก สายยานยนต์จากญี่ปุ่นอย่าง Creative311 ก็ได้ลงข้อมูลเพิ่มเติมของโมเดลใหม่ที่กำลังจะได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน โดยข้อมูลใหม่ที่ว่านี้จะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลยครับ
[adsforwp id=”1302″]
ตัวรถ Nissan Sylphy e:POWER รุ่นใหม่ล่าสุดจะใช้รากฐานของโมเดลจาก Sylphy B18 ที่จำหน่ายในรุ่นมาตรฐานของโมเดลในตลาดประเทศจีน โดยเป็นรุ่นอัพเกรดจาก Sylphy B17 ที่ทำการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นอีกที โดยที่ตัวรถจะยังคงรูปแบบของรถเก๋ง 4 ประตูสไตล์คูเป้ โดยการจำหน่ายในประเทศจีนนั้นจะแบ่งย่อยโมเดล e:POWER ออกเป็น 4 เกรดย่อยๆ ซึ่งจะมีความต่างกันในเรื่องของอุปกรณ์พื้นฐาน ที่ชัดเจนคือขอบล้อทั้ง 4 เกรดจะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยจะเริ่มต้นด้วยขอบล้อแบบกระทะมาตรฐานขนาด 15 นิ้ว และไล่เรียงมาจากถึงขอบล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว รวมไปถึงความต่างกันของอุปกรณ์ภายนอกพื้นฐานทั้งส่วนของกระจังหน้า V-Motion ที่ใช้สีที่ต่างกัน มือจับประตูที่แตกต่าง และยังมีกระจกมองข้างที่แตกต่างกันอีกด้วย
ไม่เพียงแต่อุปกรร์เท่านั้นที่จะแตกต่างออกไปตามเกรดตัวรถ ชุดสีตัวถังก็เช่นกัน จะมีความต่างกันของการเลือกใช้สีในแต่ล่ะเกรด โดยจะเริ่มต้นด้วยชุดสีมาตรฐานแบบโทนเดี่ยว ที่ทั้งคันจะใช้โทนสีเดียว ซึ่งจะมีให้เลือก 4 ชุดสี และขยับขึ้นมาในชุดสีเกรดที่สูงขึ้นจะเป็นชุดทูโทนที่ไม่ว่าจะเลือกสีตัวถังสีอะไรจากหมวดหมู่จะได้รับหลังคาสีดำเมทัลลิก ที่ตัดกัน พร้อมกับการเดินขอบกระจกด้วยวัสดุที่ดูคล้ายกับโครเมี่ยม เสริมตัวรถให้มีความสปอร์ตขั้นสุด
[adsforwp id=”1302″]
และข้อมูลสุดท้ายที่อาจจะไม่เชิงใหม่มากมายนักก็คือการเลือกใช้ขุมกำลัง e:POWER ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปขนาด 1.2 ลิตรในการปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ โดยมีข้อมูลใหม่ที่เป็นอัตราเปรียบเทียบของการใช้น้ำมันในการปั่นไฟ 1 ลิตร จะสามารถเก็บประจุไฟในการหมุนมอเตอร์ไฟฟ้าในการวิ่งทำระยะได้ 24.4 กิโลเมตร ซึ่งก็ใกล้เคียงกับ เครื่องยนต์ e:POWER ที่ใช้กับ Nissan Note และ Kick ที่ผลิตในประเทศไทยในปัจจุบัน
ในส่วนของการเปิดตัวนั้นคาดว่าทางผู้ผลิตจะเปิดตัว Nissan Slyphy e:POWER สำหรับตลาดประเทศจีนภายในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ และจะมีการเปิดตัวในตลาดประเทศญี่ปุ่นต่อไป รวมไปถึงอาจจะมีการใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักเช่นเดียวกับที่ใช้เป็นฐานในการผลิตโมเดล e:POWER อย่าง Nissan Note และ Kick ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว และยังมีแววอีกว่าประเทศไทยอาจจะได้รับการเปิดตัวโมเดลอย่างเป็นทางการก่อนประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย จะเป็นไปตามนี้หรือไม่ต้องติดตามกันต่อไปครับ
Credit : creative311.com
[adsforwp id=”1302″]