หลังจากทางต้นสังกัด Honda ได้ออกมายืนยันการมีอยู่ขของโมเดลประสิทธิภาพ Honda Civic Type R ที่จะใช้ร่างของเจน 11 ของโมเดล Hatchback มาปรับเปลี่ยนสมรรถนะและอุปกรณ์ให้เป็นโมเดลสายซิ่งตั้งแต่ออกจากโรงงาน โดยล่าสุด bestcarweb.jp สื่อยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นเองก็ได้ทำการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโมเดลใหม่ที่จะมาในปีหน้า โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
[adsforwp id=”1302″]
ตรงจุดนี้เป็นคำถามที่หลายๆ คนเริ่มสงสัยกันตั้งแต่ในช่วงประกาศ ด้วยสถาวะการคุมเข้มทางด้านมลภาวะจากทั่วโลกที่ส่งผลให้เครื่องยนต์สันดาปภายในนั้นไม่สามารถปลดปล่อยพละกำลังออกมาในขั้นสุดได้บนท้องถนนสาธารณะ และเมื่อต้นแบบอย่างเจ้า CIVIC เจนที่ 11 นั้นมีการเลือกใช้งานเครื่องยนต์แบบ 1.5 ลิตรเทอร์โบ ซึ่งแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าที่เจ้า Type R จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร K20C เช่นเดียวกับขนาดแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนแปลงไป โดยระยะฐานล้อที่ยาวกว่าเดิม 35 มิลลิเมตร จะช่วยให้ตัวรถนั้นมีประสิทธิภาพในการทำความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นได้เลยถ้าทาง Honda เองไม่ตัดสินใจในระบบไฮบริดช่วยกำลังเพื่อชดเชยในส่วนที่เครื่องยนต์สันดาปถูกผิดผนึกจากโรงงาน
เรื่องระบบขับเคลื่อนก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของวงการยานยนต์ที่ส่วนใหญ่แล้ว ณ ตอนนี้ รถยนต์มักจะนิยมใช้งานระบบขับเคลื่อนแบบ AWD ที่ทำให้กำลังของล้อในการหมุนนั้นเสถียรกว่ารุ่นขับหน้าและขับหลัง แต่ก็มีข้อเสียอยู่ที่เรื่องของน้ำหนักและต้นทุนในการผลิต ซึ่งหาก Civic Type R เองจะพลิกแนวจากรถ FWD ที่เร็วที่สุดให้กลายเป็นรถขับสี่เพื่อต่อสู้ ก็เป็นเรื่องแปลกใหม่ไม่น้อย แต่ทั้งนี้ก็น่าสนใจในเรื่องของราคาด้วยเช่นกัน
[adsforwp id=”1302″]
ทางทฤษฎีแล้ว รถยนต์ทั่วๆ ไปเมื่อเทียบกับอัตราส่วนของน้ำหนักกับระบบขับเคลื่อน จากรุ่น FWD ไปสู่รุ่น AWD จะมีส่วนต่างของน้ำหนักอยู่ที่ราวๆ 100 กิโลกรัมด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อต้องแบกน้ำหนักที่มากขึ้นก็จะทำให้เครื่องยนต์นั้นมีกำลังที่ลดลงตามไปด้วย ดังนั้นทฤษฎีนี้ก็เป็นฐานในการสนับสนุนความเป็นไปได้ที่ขุมกำลังของ Civic Type R ใหม่นั้นจะมีทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า แบบเดียวกับที่ Suzuki Swift Sport ทำ
เช่นเดียวกันกับการเพิ่มระบบไฮบริดให้กับเครื่องยนต์นั้น ก็จะสร้างน้ำหนักบนตัวรถเพิ่ม ถึงแม้ว่า Civic Type R ใหม่จะใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ FWD เหมือนเดิม แต่ถ้าเพิ่มระบบไฮบริดเข้ามาน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นราวๆ 50 กิโลกรัมก็เป็นอุปสรรคในการข้ามขัดจำกัดของตัวรถ หากเทียบกับน้ำหนักตัวรถของ Civic Type R แบบเดิมอยู่ที่ 1,390 กก ถ้าเรารวมทุกอย่างทั้งระบบขับเคลื่อนและระบบไฮบริดเข้าไว้บนรถคันใหม่น้ำหนักของมันจะพุ่งไปที่ 1,540 กก.
ในทางกลับกัน ถ้าล้อหลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ กำลังจะเพิ่มขึ้นและประสิทธิภาพการเร่งความเร็วจะดีขึ้น เนื่องจากมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง ประสิทธิภาพการส่งกำลังของแรงขับเคลื่อนจึงดีขึ้นด้วย ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น การกระจายแรงขับทางซ้ายและขวาของล้อหลังสามารถปรับได้ ดังนั้นประสิทธิภาพการเลี้ยวจึงดียิ่งขึ้นไปอีก
ในส่วนของโรงงานที่จะรับหน้าที่ในการประกอบนั้น ดั่งเดิมแล้ว Honda Civic Type R จะถูกผลิตขึ้นในโรงงานของประเทศอังกฤษ แต่ในปัจจุบันนั้นโรงงานถูกปอดไปเป็นที่เรียบร้อย โดยตัวเต็งที่จะถูกเลือกใช้งานในการผลิตจะเป็นโรงงาน Yorii ในประเทศญึ่ปุ่น ซึ่งเป็นโรงงานเดียวกับที่เป็นฐานในการผลิตรุ่น Hatchback แต่ก็ยังมีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจไม่น้อย อย่างโรงงานในอเมริกาเหนือที่มีฐานของตลาดคิดเป็นอัตราส่วนถึง 60% ของการจำหน่าย Type R จากทั่วโลก และยังมีโรงงานในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานในการผลิตและยังมีค่าแรงที่ช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้ในระดับหนึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอีกด้วย
ย้ำอีกครั้ง ไม่มีการยืนยันจากทางผู้ผลิตแต่อย่างใด เป็นเพียงทัศนะจากนักข่าวญี่ปุ่นและจากพวกเรา Thai Driving เท่านั้น ยังไงก็ต้องรอการเปิดเผยข้อมูลจากทางผู้ผลิต ซึ่งคาดว่าปลายปี 2021 นี้น่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลบางส่วนของตัวรถ รวมไปถึงข้อสงสัยกับการใช้งาน e-HEV ของโมเดลนี้ว่าจะเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน แฟนๆ ของ Type R เองก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ
Credit : bestcarweb.jp
[adsforwp id=”1302″]