ถ้าเอ่ยชื่อถึง Alpina เชื่อได้ว่าหลายๆ คนอาจจะเกิดคำถามขึ้นในหัว ว่ามันคืออะไร มันมีที่มาที่ไปแบบไหน แต่ถ้าเราบอว่า Alpina เป็นแบรนด์ลูกจ่ายจาก BMW และในโมเดล B4 และ D4 คือการนำเอาโมเดล BMW Series 4 มาทำการปรับแต่งจัดเต็ม และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มตลาดที่มีระดับใกล้เคียงกับ M Performance ของทางค่าย
[adsforwp id=”1302″]
Alpina B4 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 ที่งาน Tokyo Auto Show โดยใช้ร่างของ BMW 435i โดยมีการปรับจูนเครื่องยนต์ N55 ขึ้นมาใหม่พร้อมกับติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 ตัว และอินเตอร์คูลเลอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 61% ทำให้ตัวรถสามารถสร้างกำลังสูงสุด 408 แรงม้า (PS) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 601 นิวตันเมตร เครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ ZF 8HP70 “Touch tronic” เปลี่ยนเกียร์บน paddle shift อีกทั้งยังมีการปรับระบบกันสะเทือนและระบบเบรกขึ้นมาใหม่เพื่อให้ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามกำลังของเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป หลังจากนั้น Alpina B4 ก็มีการแบ่งรุ่นย่อยๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างปี 2017 ก็มีการเปิดตัว B4s ที่ปรับขนาดของเทอร์โบให้ใหญ่ขึ้นอีก 10% รวมไปถึงในปี 2019 ก็ได้เปิดตัว B4 S Edition 99 ที่งาน Geneva Motor Show
คำถามคือ เมื่อมันดูจะมีประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษแล้วทำไมมันถึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก ส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของราคาในการจำหน่าย มันถูกจัดให้เป็นรถยนต์ในหมวดหมู่ Exotic Cars ทั้งๆ ที่องค์รวมของตัวรถนั้นมีความใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ของ BMW เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการผลิตในรูปแบบจำนวนจำกัด ซึ่งถ้าให้มองแล้ว ถ้าใจไม่ใฝ่ในทางนี้จริงๆ ไปลงกับ M Performance จะดูคุ้มค่ากว่ากันเยอะ
[adsforwp id=”1302″]
กลับมาที่ภาพ Spyshot กันก่อน เราจะสังเกตได้ว่าตัวรถนั้นมีความคล้ายกับ BMW M440i เป็นอย่างมาก ก็เพราะตัวพื้นฐานทั้งหมดนั้น ยกชุดมาจาก M440i แต่ก็มีการปรับแต่งในหลายๆ ส่วน ซึ่งแน่นอนว่าขุมกำลังหลักของ B4 รุ่นใหม่นั้นจะยังคงใช้งาน เครื่องยนต์ S58 แบบเดียวกับที่พบใน M3 และ M4 ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้มีกำลัง 456 แรงม้า (PS) พร้อมด้วยแรงบิด 700 นิวตันเมตร โดยน่าจะมีสมรรถนะที่ใกล้เคียงกับ B3 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว โดยจะมีความความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 3.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 303 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เมื่อกล่าวถึง Alpina B4 รุ่นข้างเคียงอย่าง D4 เองก็ไม่ชัดเจนว่าจะมีการผลิตออกมาในช่วงเวลาให้หลังหรือไม่ โดยความแตกต่างของ D4 นั้นคือการเลือกใช้งานเครื่องยนต์ดีเซล รูปบบเดียวกับ BMW 440D ซึ่งในปัจจุบันความนิยมเครื่องยนต์ดีเซลในรูปแบบตัวรถ Gran Coupe นั้นค่อยๆ เสื่อมถอยลงไป แต่น่าสนใจว่าทางผู้ผลิตจะมีการยัดเอาเครื่องยนต์ไฮบริดแบบที่ตลาดต้องการลงใส่ในโมเดลของ Alpina หรือไม่
[adsforwp id=”1302″]