เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา Mercedes-Benz ได้ประกาศแผนงานใหม่ สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าใหม่ ในรูปแบบของรถ Mini-Van ซึ่งจะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของซีรี่ส์ดังอย่าง T-Class
[adsforwp id=”1302″]
เดิมทีแล้ว Mercedes-Benz มีรถมินิแวนในซีรี่ส์ V-Class จำหน่ายในปัจจุบัน แต่การเปิดตัว Concept EQT ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะแนะนำปรัชญาการออกแบบของ Mercedes-Benz บนแพลตฟอร์มไฟฟ้า 100% ซึ่งเจ้า EQT นั้นก็ใช้แนวทางและองค์ความรู้จาก V-Class มาปรับใช้ โดยเน้นที่งานออกแบบพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางและหลากหลายสำหรับผู้โดยสารสูงสุด 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บสัมภาระที่กว้างขวาง มุ่งสู่ความสะดวกสบาย ฟังก์ชันการทำงาน การเชื่อมต่อและความปลอดภัยในระดับสูง
โดยรูปแบบของตัวรถนั้น จะใช้แนวทางและภาษาการออกแบบที่อิงจาก EQ ซีรี่ส์ โดยจะเห็นได้จากการใช้รูปแบบของไฟหน้า LED ที่เรียวยาว และกระจังหน้าลายดาวที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ ล้ออะลูมิเนียมขนาด 21 นิ้วที่มีผิวมันเงา หลังคาแบบพาโนรามานอกจากนี้ยังมีแถบไฟที่เชื่อมต่อไฟหน้า LED ซ้ายและขวาและไฟท้าย LED เมื่อรวมสิ่งนี้เข้ากับสีของตัวเครื่องเป็นสีดำเงา ซึ่งสร้างความแปลกตาได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ในส่วนของมิติตัวรถนั้น EQT “Concept” จะมีความยาว 4,945 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,869 มิลลิเมตร ความสูงรวม 1,826 มิลลิเมตร ด้านหลังติดตั้งประตูท้ายแนวตั้งและหน้าต่าง เพื่อรองรับพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ภายในห้องโดยสารจะมีงานออกแบบทูโทน ที่ตัดกันระหว่างสีขาวและสีดำ เบาะนั่งจะใช้วัสดุ Nappa สีขาว ในส่วนของคอนโซลกลางจะเป็นวัสดุรีไซเคิล
[adsforwp id=”1302″]
ส่วนบนของแผงหน้าปัดได้รับการออกแบบให้หลอมรวมกับแผงมิเตอร์ ช่องเก็บของแบบกึ่งปิดที่ใช้งานได้จริงถูกวางไว้ที่ด้านบนของแผงหน้าปัด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัส นอกจากนี้ยังมีคอนโซลกลาง ประตู และไฟส่องสว่างโดยรอบเพื่อให้แสงสว่างทั่วทั้งห้องโดยสาร ประตูบานเลื่อนทั้งสองด้านที่มีช่องเปิดขนาดใหญ่ถูกนำมาใช้เพื่อให้ง่ายต่อการขึ้นและออกจากเบาะแถวที่สาม และมีการออกแบบเฉพาะสำหรับการติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่มากถึง 3 จุด
ระบบสาระบันเทิงเป็น “MBUX” (Mercedes-Benz User Experience) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด จอแสดงผลส่วนกลางในตัวพร้อมระบบสัมผัส ปุ่มควบคุมแบบสัมผัสบนพวงมาลัย และระบบสั่งงานด้วยเสียงที่เปิดใช้งานโดย Key Wird “Hi, Mercedes” นอกจากนี้ระบบ MBUX ยังมีการเสริมด้วยระบบ Ai ที่สามารถใช้คุณสมบัติการคาดการณ์เพื่อคาดเดาสิ่งที่ผู้ขับต้องการ ตัวอย่างเช่น หากระบบตรวจสอบพบว่าผู้ขับจะใช้การโทรหาบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นประจำในวันศุกร์ระหว่างทางกลับบ้าน ระบบจะแนะนำหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลนั้นบนจอแสดงผลในรถของวันศุกร์ อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่อกับ “Mercedes Me Connect” สำหรับข้อมูลการจราจรสดและการอัพเดทแบบไร้สาย
สุดท้ายตัวรถจะมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 เมษายนที่จะถึงนี้ โดยทางผู้ผลิตได้กล่าวไว้ว่า ตัวรถนั้นกำลังพัฒนาและเข้าใกล้กับการผลิตในระดับ Production แล้ว ซึ่งทางสื่อยานยนต์จากฝั่งยุโรปเองก็คาดเดากันว่า ตัวรถนั้นจะพร้อมสำหรับการจำหน่ายอย่างเร็วที่สุดภายในปี 2022 นี้ หรือหากล่าช้าก็ไม่น่าจะเกินไตรมาสที่สองของปี 2023 สำหรับตลาดยุโรป
Credit : spyder7.com
[adsforwp id=”1302″]