Audi ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศเยอรมัน ได้เปิดตัวรถยนต์แนวคิดพลังงานไฟฟ้า รุ่นที่สามและเป็นรุ่นที่มีความใกล้เคียงกับการผลิตจริงมากที่สุด ภายใต้ชื่อ Audi Urbansphere EV ซึ่งมันจัดว่าเป็นอีกหนึ่งรถมินิแวนพลังงานไฟฟ้าที่น่าสนใจ และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
[adsforwp id=”1302″]
Audi Urbansphere ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรถยนต์ที่เป็นมินิอวนขนาดเล็ก เพื่อการใช้งานในเมืองใหญ่โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในรถยนต์ของผู้โดยสาร โดยข้อเท็จจริงแล้ว Audi ได้วางตัว Urbansphere สำหรับเปิดตัวในงาน Beijing Auto Show ที่ประเทศจีน แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ครั้งใหม่ในประเทศจีน ทำให้ Audi ต้องใช้ช่องทางออนไลน์ในการเปิดตัว
Urbansphere เป็นรถแนวคิดลำดับที่สามต่อจาก Skysphere รถยนต์โรดสเตอร์สายสปอร์ต และ ซีดานสุดหรู Grandsphere โดยเจ้า Urbansphere เป็นผลงานของโครงการความร่วมมือระหว่างสตูดิโอออกแบบของ Audi ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และเมือง Ingolstadt ประเทศเยอรมัน เป้าหมายคือการสร้างยานพาหนะสำหรับมหานครของจีน โดยนักออกแบบจะรับข้อมูลจากผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในประเทศจีนในระหว่างการออกแบบและพัฒนา
สำหรับตัวรถนั้น จะมาพร้อมกับมิติ ความยาว 5.5 เมตร กว้าง 2 เมตร สูง 1.78 เมตร มีระยะฐานล้อ 3.4 เมตร ซึ่งดูสวนทางกับความตั้งใจเริ่มต้นในการสร้างรถยนต์มินิแวนขนาดเล็ก เพราะมันมีขนาดที่ใหญ่กว่า Cadillac Escaladeเสียด้วยซ้ำ ตัวรถจะมาพร้อมกับหลังคาที่ออกแบบมาตามหลัก Areodynamic ล้อขนาดใหญ่ถึง 24 นิ้ว ไฮไลท์อยู่ที่ส่วนหน้าพร้อมการตีความใหม่ของกระจังหน้าแบบ Singleframe ซึ่งขยายไปทางด้านข้าง คล้ายกับแนวคิด Skysphere ด้วยวิธีนี้ Audi สอดคล้องกับเทรนด์กระจังหน้าขนาดใหญ่ล่าสุดซึ่งค่อนข้างเป็นที่นิยมในมินิแวน
ทีมงานออกแบบของ Audi อธิบายแนวคิดว่าเป็น “เลานจ์ติดล้อ และสำนักงานเคลื่อนที่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นที่ใช้สอยที่สามในช่วงเวลาที่การจราจรติดขัด” สิ่งที่สะดุดตาเป็นอย่างมากคือบานประตูแบบ Suicide Doors ขนาดใหญ่ ภายในห้องโดยสารค่อนข้างโปร่งสบายและเป็นกันเอง ในขณะที่สามารถใส่ผู้โดยสารจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย Urbansphere มีที่นั่งอิสระเพียงสี่ที่นั่งที่จัดเป็นสองแถวเพื่อให้สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ที่นั่งมีโหมดพักผ่อนและความบันเทิงพร้อมองศาการเอียงและการหมุนที่แตกต่างกัน ส่วนขยายที่พักขา และลำโพงบนพนักพิงศีรษะสำหรับการสร้างโซนเสียงส่วนตัวของที่นั่งแต่ล่ะตำแหน่ง
[adsforwp id=”1302″]
พวงมาลัย แผงหน้าปัดดิจิตอล และแป้นเหยียบจะซ่อนเมื่อรถอยู่ในโหมดอัตโนมัติ เช่นเดียวกับรถแนวคิด Grandsphere โดยที่ตัวรถ Urbansphere จะถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับที่ 4 ซึ่งจะเปิดตัวในยานพาหนะที่ใช้งานจริงภายในปี 2050
ไม่เพียงเท่านี้ สำหรับผู้โดยสารจะมีความสามารถเข้าถึงฟีเจอร์และสาระบันเทิงต่างๆ แบบดิจิตอล ผ่านการฉายภาพบนแดชบอร์ด หน้าจอที่ติดตั้งบนพนักพิง แว่น VR หรือจอแสดงผล OLED แบบโปร่งใสที่หดได้ ในส่วนของผู้ขับขี่นั้นจะสามารถเข้าถึงการสั่งการระบบต่างๆได้ด้วยการมองการควบคุมด้วยท่าทาง และการควบคุมด้วยเสียง นอกจากนี้ตัวรถจะมีระบบ Ai ที่ช่วยในการประเมินความเครียดของผู้ขับขี่ โดยใช้การสแกนใบหน้าและการวิเคราะห์ด้วยเสียง และเสนอคำแนะนำเพื่อการผ่อนคลายอีกด้วย
Urbansphere ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม PPE สำหรับรถยนต์ EV โดยเฉพาะ พัฒนาโดย Audi และ Porsche ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มจริงที่ใช้งานบน Audi Q6 e-tron, A6 e-tron และ Porsche Macan EV ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ ตัวรถจะมีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่ที่ให้กำลังสูงสุด 396 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด690 นิวตันเมตร โดยมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ที่มีคุณสมบัติในการเผิดหรือปิดการทำงานของมอเตอร์หน้าหรือหลัง เพื่อเป็นการลดการใช้พลังงานในยามที่ไม่จำเป็น
แบตเตอรี่แบบติดตั้งบนพื้นมีความจุ 120 kWh พัฒนาโดย Audi โดยมีระยะการวิ่งบนการทดสอบ WLTP ที่ 750 กิโลเมตร มีเทคโนโลยีการชาร์จสูงสุด 800V โดยการชาร์จไฟกำลัง 270KW เพียง 10 นาที จะทำให้ตัวรถสามารถวิ่งได้ไกลถึง 300 กิโลเมตร ในขณะที่การชาร์จไฟจาก 5-80% จะใช้เวลาที่น้อยกว่า 25 นาที
สำหรับ Audi Urbansphere EV ยังคงเป็นรถยนต์มินิแวนพลังงานไฟฟ้า ที่ยังเป็นเพียงแนวคิด ยังต้องมีการพัฒนาต่อ อย่างเร็วที่สุดที่เราจะได้เห็นรถต้นแบบออกทดสอบกันน่าจะราวๆ กลางปี 2023 โดยทางผู้ผลิตมีแผนการที่จะเน้นไปที่ตลาดประเทศจีนเป็นหลัก ด้วยความที่สภาพตลาดปัจจุบันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบมินิแวนนั้น ดูจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดประเทศนี้ หากมีความคืบหน้าเราจะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป
Credit : www.carscoops.com
[adsforwp id=”1302″]