ผลิตภัณฑ์ใหม่จากแผนก M ของบริษัท BMW กับเจ้า 2023 BMW M4 CSL ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษและมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ด้วยเทคโนโลยีจากสนามการแข่งขัน ที่อัดแน่นในตัวรถโมเดลพิเศษนี้ และที่สำคัญที่สุด ตัวรถจะมีการผลิตเพียง 1,000 คันทั่วโลกเท่านั้น
[adsforwp id=”1302″]
2023 BMW M4 CSLรถสปอร์ตคูเป้รุ่นใหม่ล่าสุดจากแผนก M ตัวรถได้รับเทคโนโลยีการออกแบบที่อิงจากรถแข่งในสนาม โดยมีการปรับการออกแบบให้เหมาะสมเพื่อศักยภาพการระบายความร้อนสูงสุดและสร้างแรงกดให้ได้มากที่สุด M4 ใหม่มีวงจรระบายความร้อนอุณหภูมิสูงและต่ำเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนประกอบต่างๆ ของรถจะรักษาอุณหภูมิการทำงานที่เหมาะสมไว้ได้ในระหว่างการขับขี่บนถนนและในสนามแข่ง
ตัวรถจะมาพร้อมกับขุมกำลัง 3.0 ลิตร แบบ 6 ลูกสูบเรียงเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 543 แรงม้า (HP) ซึ่งมากกว่าตัวแข่ง M4 ถึง 40 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 649 นิวตันเมตร BMW ยังเพิ่มแรงดันบูสต์จาก 24.7 psi ในการแข่งขันเป็น 30.5 psi บนตัวรถรุ่นใหม่ ระบบเกียร์จะเป็น M Steptronic 8 สปีดพร้อม Drivelogic แป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนไฟเบอร์ที่คอพวงมาลัย ระบบขับเคลื่อนจะเป็นแบบ RWD
ประสิทธิภาพของตัวรถนั้น มีความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ในเวลา 3.6 วินาที และสามารถเร่งความเร็วไปถึง 120 ไมล์ต่อชั่วโมง (193 กิโลเมตต่อชั่วโมง) ในเวลา 10.5 วินาที โดยตัวรถจะมีการจำกัดความเร็วสูงสุด 191 ไมล์ต่อชั่วโมง (307 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ด้วยระบบ ECU และจะทำการตัดการจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้ทันทีเมื่อความเร็วถึงขีดที่จำกัดไว้
เมื่อดูจากตัวเลขประสิทธิภาพแล้ว M4 CSL รุ่นใหม่ถือว่าเป็นสปอร์ตคูเป้ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก แต่ทางผู้ผลิตเองก็ไม่ได้จะอวดกันแค่ตัวเลขที่วัดบน DYNO เท่านั้น แต่ได้นำเอาตัวรถเดิมๆ จากโรงงานไปวิ่งทดสอบบนสนาม Nürburgring ในประเทศเยอรมัน แบบฟูลคอร์ส Nordschleife Circuit และตัวรถสามารถทำเวลาต่อรอบได้ 7″20.2 นาที ก็ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับรถโรงงาน
[adsforwp id=”1302″]
ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ตัวรถนั้นมีประสิทธิภาพที่สูงขนาดนี้ เกิดจากทางผู้ผลิตได้พยายามที่จะลดน้ำหนักตัวรถจากรุ่น M4 โดยสามารถลดได้มากถึง 108.8 กิโลกรัม ซึ่งทำให้ตัวรถ M4 CSL นั้นมีน้ำหนักตัวที่ 1,605 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งการลดน้ำหนักจำนวนมากขนาดนี้ BMW ได้ทำการตัดส่วนเบาะนั่งแถวหลังออกไป เปลี่ยนไปใช้ฉนวนกันเสียงน้ำหนักเบา ใช้ส่วนประกอบพลาสติกเสริมคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งภายในและภายนอก รวมไปถึงการเปลี่ยน Cad ลดเสียงของท่อไอเสียให้เป็นไทเทเนียม และยังมีการปรับเปลี่ยนส่วนประกอบอื่นๆ อีกมากมาย
ส่วนอื่นๆ บนตัวรถที่ถูกลดน้ำหนักลงนั้น เบรกเซรามิก M Carbon กระจังหน้า ไฟท้าย พรมปูพื้นห้องโดยสาร และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ การใช้คาร์บอนไฟเบอร์สำหรับคอนโซลกลางสามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 4 กิโลกรัม และยังมีเบาะนั่งทรงสปอร์ต M Carcon ที่ช่วยลดน้ำหนักได้อีก 24 กิโลกรัม นอกจากนี้ BMW ยังได้เลือกใช้วัสดุ CFRP สำหรับหลังคาบับเบิ้ลสองชั้น ซึ่งช่วยลดน้ำหนักขอบโดยรวมของรถและลดจุดศูนย์ถ่วงของรถอีกด้วย
ในส่วนของระบบช่วงล่างนั้น BMW M4 CSL มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนเฉพาะรุ่นซึ่งลดความสูงของรถลง 0.3 นิ้วเมื่อเทียบกับตัวแข่ง M4 ไม่เพียงเท่านั้นยังมีงานออกแบบใหม่ที่เป็นเฉพาะรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเหล็กกันโคลง การตั้งค่าแคมเบอร์ล้อ และแดมเปอร์ ในส่วนของระบบเบรกนั้น ระบบเบรกหน้าจะมาพร้อมกับคาลิปเปอร์เบรก 6 ลูกสูบ พร้อมกับจานเบรกเซรามิกขนาด 15.7 นิ้ว ส่วนด้านหลังจะเป็นจานเบรกขนาด 15.0 นิ้ว คาลิปเปอร์แบบสูบเดียว ในวงล้อมีให้เลือก 2 ขนาด 21 และ 22 นิ้ว และจะมาพร้อมกับยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R
2023 BMW M4 CSL จะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 140,895 ดอลล่าร์หรือประมาณ 4.85 ล้านบาท โดยตัวรถจะเริ่มเปิดให้จองล่วงหน้าในวันที่ 1 มิถุนายนที่จะถึงนี้ และจะมีการจำกัดจำนวนเพียง 1,000 คันเท่านั้น ตัวรถจะเริ่มผลิตในเดือนกรกฎาคมนี้และจะส่งมอบให้กับผู้ที่สั่งจองล่วงหน้าอย่างเร็วที่สุดภายในไตรมาสที่สองของปี 2023
Credit :www.motor1.com
[adsforwp id=”1302″]