ในที่สุดทางค่าย Honda ก็ได้ทำการเปิดตัวรถ SUV ที่หลายต่อหลายคนเฝ้ารอคอยกันในประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการกับ All New HR-V (หรือใช้ชื่อว่า Vezel ในการทำตลาดสำหรับประเทศญี่ปุ่น) หลังจากที่มีการเผยโฉมออกมาให้เห็นกันก่อนหน้านี้แล้ว
[adsforwp id=”1302″]
All New Honda HR-V จะมีรุ่นย่อยทั้งหมด 4 รุ่นดังนี้
รุ่น G – เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร ไฟหน้าแบบ LED, ระบบ Honda Sensing, หน้าจอ TFT 4.2 นิ้ว, ล้ออลูมิเนียม 16 นิ้ว, ระบบควบคุมการลงเนิน, โหมดการขับขี่ 3 โหมด ECO / NORMAL / SPORT และฟีเจอร์อื่นๆ
ราคารุ่น G ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2,279,200 เยน หรือประมาณ 663,000 บาท
ราคารุ่น G ขับเคลื่อน 4 ล้อ 2,499,200 เยน หรือประมาณ 727,000 บาท
[adsforwp id=”1302″]
รุ่น E:HEV X – เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร ทำงานแบบไฮบริดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า สิ่งที่ได้รับเพิ่มมาจากรุ่น G ก็คือ หน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว, ตัวเลือกในการชะลอความเร็ว ท่ีช่วยให้ชะลอความเร็วรถได้โดยไม่ต้องเหยียบเบรก (คล้ายๆ กับของ Nissan Kick)
ราคารุ่น E:HEV X ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2,658,700 เยน หรือประมาณ 774,000 บาท
ราคารุ่น E:HEV X ขับเคลื่อน 4 ล้อ 2,878,700 เยน หรือประมาณ 838,000 บาท
รุ่น E:HEV Z – เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร ทำงานแบบไฮบริดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า สิ่งที่ได้รับเพิ่มมาจากรุ่น E:HEV X ก็คือ ประตูไฟฟ้าด้านท้ายแบบแฮนด์ฟรี, ล้ออลูมิเนียม 18 นิ้ว, บอดี้ด้านล่างสีดำเงา, ไฟเลี้ยวแบบไล่แสงตามลำดับ, เบาะนั่งแบบ Combination Seat, แจ้งเตือนจุดบอด, ไฟเลี้ยวสำหรับการเข้าโค้ง, แอร์แถวหลัง และช่องชาร์จ USB ที่เพิ่มมากขึ้น
ราคารุ่น E:HEV Z ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2,898,500 เยน หรือประมาณ 843,800 บาท
ราคารุ่น E:HEV Z ขับเคลื่อน 4 ล้อ 3,118,500 เยน หรือประมาณ 908,000 บาท
รุ่น E:HEV PLAY – เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร ทำงานแบบไฮบริดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า สิ่งที่ได้รับเพิ่มมาจากรุ่น E:HEV Z ก็คือ หลังคาแบบพาโนราม่า, หน้าจอแสดงผล Honda Connect, ตัวรถจะมีสีทูโทน (หลังคา, เสา และตรงกระจกประตู) ระบบ PLAY Exclusive Coordination, ระบบชาร์จไวเลสไร้สาย ฯลฯ
ราคารุ่น E:HEV PLAY ขับเคลื่อน 2 ล้อ 3,298,900 เยน หรือประมาณ 960,000 บาท (* รุ่นนี้จะมีเพียงระบบขับเคลื่อน 2 ล้อให้เลือกเท่านั้น)
นอกจากนั้นแล้วยังมีเวอร์ชั่นแต่งพิเศษจาก Mugen มาเป็นทางเลือกด้วย
ส่วนประเทศไทยเราคาดว่าจะมีโครงสร้างราคาที่สูงกว่าทางญี่ปุ่นไปในระดับหนึ่ง (ซึ่งอาจมีราคาเริ่มต้นใกล้เคียงกับโฉมก่อนหน้านี้ ที่ประมาณ เก้าแสนกลางๆ ) ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับว่ารายละเอียดของเครื่องยนต์และรุ่นย่อยต่างๆ นั้น จะเหมือนหรือว่าแตกต่างไปจากทางญี่ปุ่นด้วย โดยมีกระแสข่าวว่าจะเปิดตัวกันในช่วงกลางถึงปลายปี 2021 นี้
Credit : honda.co.jp creative311.com
[adsforwp id=”1302″]