เปิดตัวอย่างเป็นทางการในระดับสากลแล้ว สำหรับ All New Mitsubishi Triton รถปิคอัพขนาดกลางรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งนับว่าเป็นการปรับโฉมครั้งใหม่ที่ใส่ความดุดันในสไตล์ของรถออฟโรดและออนโรดได้อย่างลงตัว
[adsforwp id=”1302″]
การปรับโฉมในครั้งนี้นั้น ทำให้ All New Mitsubishi Triton รุ่นใหม่นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ของซีรี่ส์ Triton มาพร้อมกับดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งตัวรถถูกพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการปรับใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแชสซี ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ และองค์ประกอบต่างๆ ภายใต้แนวคิด “พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure)
[adsforwp id=”1302″]
ในแง่ของการออกแบบตัวรถนั้น จะอิงตามแนวคิด Beast Mode ที่แสดงออกถึงความดุดัน แข็งกร่าว และบึกบึน พร้อมไฟหน้า LED แบบแยกจุดแบบ dot-matrix และกระจังหน้าแนวนอนขนาดใหญ่รูปลักษณ์โดยรวมนั้นโดดเด่นกว่าและมีกลิ่นอายของความล้ำสมัยแนว Sci-Fi จากโลกอนาคต
ตัวรถจะถูกพัฒนาบนโครงสร้างแบบ non-load-bearing ladder frame ที่พัฒนาขึ้นใหม่ นอกจากตัวถังและฐานล้อที่ยาวขึ้นแล้ว ความแข็งแกร่งของตัวถังยังเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และตัวรถจะถูกชดเชยด้วยวัสดุพิเศษที่มีความแข็งแรงเทียบเท่ากับของเดิม แต่มีน้ำหนักที่เบากว่า โดยตัวรถจะมีขนาด 5320/1865/1795 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3130 มิลลิเมตร ซึ่งจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า โดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 20 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อที่ยาวกว่า 130 มิลลิเมตรด้วยกัน
สำหรับภายในห้องโดยสาร ไม่เพียงแต่รักษาความทนทาน แต่ยังเน้นความสะดวกสบายในการเดินทาง ในรุ่นสูงสุดจะมีการตกแต่งภายในแบบทูโทนหน้าจอควบคุมส่วนกลางที่ใหญ่ขึ้น และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ADAS ซึ่งรวมถึงระบบ Adaptive Cruise Control ที่สามารถปรับระดับความเร็วได้การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB การตรวจจับจุดบอด BSM และอื่นๆ อีกมากมาย
ตัวรถรุ่นใหม่จะมีคุณสมบัติในการรองรับระบบ Mitsubishi Connect ซึ่งจะสามารถจัดการผ่านระยะทางไกลด้วยสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถควบคุมหรือตรวจสอบสถานะของรถจากระยะไกล และยังมีคุณสมบัติพิเศษที่จะส่งคำขอความช่วยเหลือได้โดยตรงเมื่อประสบอันตราย โดยระบบจะใช้การเปิดใช้งานของถุงลมนิรภัย เมื่อตรวจเจอระบบจะส่งสายฉุกเฉินไปยังปลายทางโดยอัตโนมัติ เพื่อขอความช่วยเหลือในทันทีตั้งแต่เกิดเหตุ
ในแง่ระบบส่งกำลังนั้น All New Mitsubishi Triton มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร VG TURBO ใหม่ที่มีชื่อรหัสว่า 4N16 ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า (ps) พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร โดยมีระบบเกียร์ให้เลือกใช้งานทั้งแบบธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด ส่วนระบบขับเคลื่อนจะเป็นแบบ Super Select 4WD-II ที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ สำหรับรุ่น Double Cab และระบบขับเคลื่อน Easy Select 4WD สำหรับรุ่น Single Cab ที่มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง และยังมีตัวเลือกระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ให้ได้ใช้งานอีกด้วย
ในส่วนของการจำหน่ายนั้น ตัวรถจะถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลักๆ ประกอบด้วย Single Cab 4WD มีราคาเริ่มต้นที่ 699,000 บาท รุ่น Double Cab 2WD ราคาเริ่มต้นที่ 820,000 บาท และตัวท๊อปสุด Double Cab 4WD มีราคาเริ่มต้นที่ 1,016,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก keyauto.my
[adsforwp id=”1302″]