ทางค่าย Mitsubishi ได้ทำการเปิดตัว All New Xforce รถ SUV รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ ในประเทศอินโดนีเซียเป็นที่แรก ไปก่อนหน้านี้ และวางเป้าหมายให้เป็นผลิตภัณฑ์เรือธงลำใหม่ สำหรับการบุกตลาดอาเซี่ยน รวมไปถึงประเทศไทยเราด้วย และมีแผนการขยายไปยังตลาด ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา หลังจากนั้น
[adsforwp id=”1302″]
โดยตัวรถ All New Mitsubishi Xforce ถือว่าเป็นรุ่นการผลิตจริงของ Mitsubishi XFC Concept ที่เปิดตัวในปี 2022 ที่ผ่านมา ทั้งในแง่ของการออกแบบภายนอกและภายใน โดยตัวรถจะมีขนาด 4390/1810/1660 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2650 มิลลิเมตร ซึ่งมีขนาดที่ใกล้เคียงกับ ASX/RVR ที่ปัจจุบันทำตลาดอยู่ในโซนยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นรถ SUV ในพิกัดขนาดกลาง และเป็นคู่แข่งของ Toyota Corolla Cross และ Honda HR-V โดยตรง
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับภายในห้องโดยสารจะพบกับ หน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบสัมผัส และแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 8 นิ้วสำหรับคนขับ ซึ่งทั้งสองจอจะอยู่มีรอบเดียวกัน เบาะนั่งจะใช้วัสดุผ้า “mélange” ไฮไลท์อีกอย่างคือระบบเสียง Dynamic Sound Yamaha Premium ที่มีลำโพงไม่น้อยกว่า 8 ตัว
และจากการให้ข้อมูลของ Mitsubishi ได้ระบุว่าห้องโดยสาร 5 ที่นั่งนั้น จะเป็นหนึ่งในห้องโดยสารที่กว้างขวางและใช้งานได้จริงมากที่สุดในรถกลุ่มนี้ โดยได้รับประโยชน์จากช่องเก็บของมากมาย กล่องเก็บความเย็น เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับเอนได้ และที่เก็บสัมภาระแบบปรับแต่งได้ ห้องโดยสารยังได้รับแท่นชาร์จไร้สายพร้อมพอร์ต USB และที่วางสมาร์ทโฟนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ในส่วนของขุมกำลังนั้น จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 103 แรงม้า (hp) และแรงบิด 141 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังเพลาหน้าโดยเฉพาะผ่านกระปุกเกียร์อัตโนมัติ CVT ไม่มีระบบมอเตอร์ไฟฟ้า หรือไฮบริดใดๆ (สำหรับในปัจจุบันนี้ แต่ในอนาคตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้)
ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า แต่ตัวรถมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 4 โหมด Normal, Wet, Gravel และ Mud รวมไปถึงระบบ Active Yaw Control (AYC) และระยะห่างจากพื้นที่มากถึง 220 มิลลิเมตร ช่วยให้การขับขี่บนพื้นผิวที่ขรุขระและลื่น สามารถรับมือกับน้ำท่วมขัง ในทำนองเดียวกัน ระบบกันสะเทือนยังได้รับการปรับแต่งเพื่อความสะดวกสบายบนถนนลาดยางที่อาจจะไม่เรียบเนียนแบบ 100%
โดยตัวรถ All New Mitsubishi Xforce จะผลิตโดยโรงงาน Mitsubishi Motors Krama Yudha ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นตลาดแรกที่จะได้ผลิตก่อนประเทศอื่นๆในอาเซียน และมีแผนการที่จะขยายตลาดไปยัง เอเชียใต้ รวมถึงประเทศไทยในอีกไม่นานเกินรอ
[adsforwp id=”1302″]