ได้มีกระแสข่าวที่น่าสนใจว่า ทางค่าย Suzuki กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์ Eco Car ขนาดเล็กยอดนิยมอย่าง Swift ในโฉมใหม่ทั้งคันแบบ All New หลังจากที่ได้มีการพบเจอการทดสอบตัวรถหลายต่อหลายครั้งในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา และมีข่าววงในจากญี่ปุ่นได้รายงานว่า รถรุ่นใหม่คันนี้จะถูกเปิดตัวครั้งแรกในช่วงปี 2023 นี้
[adsforwp id=”1302″]
โดยที่ตัวรถ Suzuki Swift นั้น ได้มีการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2000 โดยถูกจัดให้เป็นรถ Compact Car สไตล์ยุโรปที่มีองค์ประกอบของรถ SUV ซึ่งว่ากันว่า Swift นั้นเป็นโมเดลลำดับแรกๆ ที่ใช้นิยามของรถ CrossOver เลยก็ว่าได้ ซึ่งตัวรถนั้นก็ประสบความสำเร็จในทันทีตั้งอต่เปิดตัวในตลาดยนต์ญี่ปุ่น และยิ่งทวีความน่าสนใจเข้าไปอีกเมื่อทางผลิตได้ส่งโมเดลพิเศษอย่าง Swift Sport เข้าร่วมการแข่งขัน Junior WRC ในฤดูกาล 2002 และมันก็มีการพัฒนาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ที่นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ที่อัพเดทล่าสุดไปเมื่อปี 2017
[adsforwp id=”1302″]
และจากการที่ได้มีการพบเจอภาพของตัวรถ ในการทดสอบหลายต่อหลายครั้งแล้วเมื่อช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา ทำให้มีกระแสข่าวว่า Suzuki กำลังเตรียมการเปิดตัว Swift เจนเนเรชั่นที่ 5 เร็วๆ นี้ โดยมีความเป็นไปได้ที่ จะยังคงใช้แนวทางเดิมของตัวรถ โดยจะปล่อยรุ่นมาตรฐานออกมาก่อน และตามหลังด้วยรุ่น Swift Sport ที่ปรับปรุงเรื่องของระบบช่วงล่างใหม่ ในระยะเวลาให้หลังจากการเปิดตัวรุ่นมาตรฐานราวๆ 6-8 เดือน โดยมีข่าววงในรายงานว่า Swift รุ่นมาตรฐานจะเปิดตัวในดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) ในปีนี้ ส่วน Swift Sport จะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม) ของปีนี้
สำหรับทางด้านขุมกำลังเครื่องยนต์ที่จะใช้บนตัวรถรุ่นใหม่คันนี้ คาดการณ์ว่าทาง Suzuki ประเทศญี่ปุ่น จะเลือกใช้งานเครื่องยนต์ชุดปัจจุบันที่ติดตั้งบน Swift Hybrid ที่ใช้ทำตลาดในยุโรป โดยจะเป็นตัว 4 ลิตร 4 ลูกสูบเรียง 129 แรงม้า (PS) บวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 48V ที่ช่วยเสริมกำลัง 13 แรงม้า (PS) โดยจะมีตัวเลือกระบบส่งกำลังทั้งแบบ 6MT และอัตโนมัติ 6 สปีด โดยจะมีระบบขับเคลื่อนแบบ FWD เป็นมาตรฐาน
ทางสื่อยานยนต์จากทางญี่ปุ่นเอง ก็ได้ทำการชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า Suzuki ไม่น่าพลาดในการนำเสนอโมเดลใหม่ เพื่อสร้างกระแสของตัวผลิตภัณฑ์ที่กำลังไปได้ดีทั้งการจำหน่ายในประเทศ รวมไปถึงตลาดสากล และมีแนวโน้มว่าตัวรถรุ่นใหม่จะมีทั้งตัวเลือกเครื่องยนต์ ICE แบบเพียวๆ เป็นรุ่นสุดท้าย พร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ Hybrid ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่การใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในอีก 5-6 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน และสำหรับประเทศไทยเราเองนั้น ก็ไม่น่าพลาดในการทำตลาดโฉมใหม่นี้ด้วย
ที่มา : bestcarweb.jp
[adsforwp id=”1302″]