ทางค่าย Toyota ได้ทำการเปิดตัว All New Camry โฉมใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว ในประเทศอเมริกาเป็นที่แรกในโลก ก่อนเตรียมเปิดตัวกันในประเทศไทยปีหน้า โดยตัวรถได้มีการปรับโฉมกันใหม่ ให้มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้นกว่าเดิม และมีการปรับปรุงระบบส่งกำลังแบบใหม่ และฟีเจอร์ที่อัพเกรดขึ้นกว่าเดิมด้วย เราลองไปดูรายละเอียดด้วยกันเลย
[adsforwp id=”1302″]
โดยตัวรถ All New Toyota Camry โฉมใหม่คันนี้ นับว่าเป็นเจเนอเรชั่นที่ 9 แล้ว โดยจะมีตัวเลือกระบบการส่งกำลังเฉพาะในรูปแบบของไฮบริดเท่านั้น แต่จะมีตัวเลือกระหว่างการขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ และมีรุ่นย่อยทั้งหมด 4 รุ่นได้แก่ LE, SE, XLE และ XSE
[adsforwp id=”1302″]
ตัวรถจะมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า (แบตเตอรี่แบบลิเธียมไออน) โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อนั้นมีมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ได้แรงม้ารวมสูงสุด 225 แรงม้า และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD นั้น จะเพิ่มมอเตอร์เจนเนอเรเตอร์ตัวที่สามที่เพลาล้อหลัง ทำให้ได้แรงม้ารวมสูงสุด 232 แรงม้า โดยทั้งสองรุ่นจะใช้ระบบเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ eCVT ที่ส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่อง ทำให้มีอัตราเร่งที่สม่ำเสมอในทุกๆ ย่านความเร็ว
ทางด้านโครงสร้างของตัวรถนั้น จะใช้แพลตฟอร์ม TNGA-K และได้รับการปรับปรุงระบบช่วงล่างใหม่ เพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้น และมีการควบคุมที่คล่องตัว ส่วนงานดีไซน์นั้น จะมาพร้อมกับกระจังด้านหน้าขนาดใหญ่ และไฟหน้าแบบเรียวเล็ก LED ดีไซน์แบบแฮมเมอร์เฮด (คล้ายๆ กับในรุ่น Prius ใหม่ และตระกูล Crown ใหม่)
และฟีเจอร์ของตัวรถนั้น ในรุ่นท็อปอย่าง XSE จะมาพร้อมกับล้อขนาด 19 นิ้ว หน้าจอดิจิตอลตรงคนขับขนาด 7 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ตรงกลางขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และมีระบบชาร์จมือถือแบบไร้สายมาให้ด้วย รวมไปถึงหน้าจอแสดงผล Head-Up ขนาด 10 นิ้ว ลำโพงจะเป็นของ JBL 9 ตัวด้วยกัน
ด้านระบบความปลอดภัยนั้น จะมาพร้อมกับชุดเทคโนโลยี Toyota Safety Sense 3.0 ประกอบด้วยระบบป้องกันก่อนการชน ที่ตรวจจับยานพาหนะและคนเดินถนน ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ ระบบช่วยออกนอกเลน ระบบช่วยอ่านป้ายถนน ไฟสูงอัตโนมัติ การตรวจสอบจุดบอด และระบบแจ้งเตือนการจราจรด้านหลัง และมีแพ็คเกจเสริม Premium Plus ที่เพิ่มระบบช่วยจราจรติดขัด ระบบแจ้งเตือนการจราจรข้ามด้านหน้า ระบบช่วยเปลี่ยนเลน จอมอนิเตอร์มุมมองแบบพาโนรามา และระบบช่วยจอดรถด้านหน้าและด้านหลังพร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ
ณ ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดราคาออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าในเร็วๆ นี้ก็จะได้ทราบกันแล้ว ส่วนประเทศไทยเรานั้น คาดว่าจะมีการเปิดตัวกันในช่วงปี 2024 ข้างหน้า โดยจะเป็นการผลิตกันในบ้านเราเหมือนกับรุ่นก่อนๆ หน้านี้นั่นเอง
ที่มา motor1.com
[adsforwp id=”1302″]