ถือว่าเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ทาง Toyota นำเข้ารถยนต์ SUV ในระดับ Luxury เข้าไปจำหน่ายอย่างเป็นทางการ อย่างเจ้า All-New Harrier ซึ่งเป็นการนำเข้าโดยตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่การนำเข้ามาโดยตัวแทนอิสระแบบที่จำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งนั้นหมายถึงราคาที่สมเหตุสมผล และการบำรุงรักษาและพาร์ทอะไหล่โดยตรงจากโรงงาน
[adsforwp id=”1302″]
สำหรับ All-New Toyota Harrier ที่นำเข้าไปจำหน่ายในประเทศสิงคโปร์นั้น จะเป็นรูปแบบเดียวกับที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและเมริกา (รวมถึงประเทศไทย) ซึ่งตัวรถมาพร้อมกับแพลตฟอร์ม TNGA-K โดยมีความยาวความกว้างและความสูง 4,740 x 1,855 x 1,660 มิลลิเมตร และฐานล้อ 2,690 มิลลิเมตร หรูหราด้วยดีไซน์ล้ำสมัย ระบบไฟ LRF รอบคัน ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว
ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นมีให้เลือกทั้งขุมกำลังแบบสันดาปปกติและไฮบริด ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Dynamic Force สี่ลูกสูบ ระบบส่งกำลังแบบแปรผัน Direct Shift-CVT สามารถให้แรงม้าสูงสุด 170 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 203 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าในพิกัด 2.5 ลิตร Dynamic Force สี่สูบ ทำงานร่วมกับระบบ THS II Hybrid และติดตั้งชุดเกียร์ eCVT แรงม้ารวมสูงถึง 215 แรงม้า (HP)
[adsforwp id=”1302″]
ระบบป้องกันความปลอดภัยแบบแอคทีฟ Toyota Safety Sense (TSS 2.0) เป็นมาตรฐานสำหรับรถทุกคัน โดยมีระบบช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็น
* ระบบเตือนการชน PCS
* ระบบควบคุมความเร็วคงที่ด้วยเรดาร์แบบไดนามิก DRCC
* LTA ช่วยรักษาช่องทางเดินรถ
* ระบบช่วยออกจากเลน LDA
* ระบบช่วยไฟสูงอัตโนมัติ AHB
* เบรกช่วยจอด PKSB
* คำเตือนการจราจรด้านหลังด้านหลัง RCTA
* BSM Blind Spot Detection
ไม่เพียงเท่านี้ ตัวรถยังมาพร้อมกับความหรูหรา ด้วยห้องโดยสารที่ตกแต่งแบบพิเศษ ด้วยการเลือกใช้วัสดุหนัง หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสาระบันเทิงแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับความสามารถ Apple CarPlay/Android Auto แท่นชาร์จอุปกรณ์ไร้สาย พาโนรามาซันรูฟและกระจกมองหลังอิเล็กทรอนิกส์แบบดิจิตอล ที่มีเฉพาะในโมเดลรุ่นท๊อปๆ ของทางค่ายเท่านั้น
สำหรับราคาเริ่มต้นของ All-New Toyota Harrier ในประเทศสิงคโปร์นั้น มีการวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 160,888 ดอลล่าร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 3.6 ล้านบาท :โดยที่ราคานั้นจะสูงกว่าราคาที่นำเข้ามาจำหน่ายโดยตัวแทนอิสระในประเทศไทย แต่ส่วนหนึ่งนั้นสืบเนื่องด้วยภาษีสรรพสามิตและยานพาหนะของประเทศสิงคโปร์นั้นจะสูงกว่าบ้านเราหลายเท่าตัว หากเราไม่นับเรื่องอากรออกไป แต่ตัวรถนั้นมีความพร้อมในการบำรุงรักษาที่ง่ายกว่า พาร์ทอะไหล่ที่พร้อมสำหรับการใช้งาน ก็ถือว่าราคานี้สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก
Credit : keyauto.my
[adsforwp id=”1302″]